การถ่ายภาพ
JPEG เทียบกับ JPEG 2000
JPEG เป็นไฟล์รูปภาพที่ได้รับความนิยมมากที่สุดประเภทหนึ่ง ซึ่งมีการนำไปใช้เพื่อแชร์และอัปโหลดเนื้อหาภาพบนโลกออนไลน์อย่างแพร่หลาย ต่างกับ JPEG 2000 รูปแบบ JPEG และ JPEG 2000 เหมือนกันอย่างไรและรูปแบบใดที่คุณควรเลือกใช้ อ่านต่อเลยเพื่อดูความเหมือนและความแตกต่างหลักๆ ระหว่าง JPEG กับ JPEG 2000
https://main--cc--adobecom.hlx.page/cc-shared/fragments/seo-articles/get-started-notification-blade
ไฟล์ JPEG คืออะไร
JPEG ย่อมาจาก Joint Photographic Experts Group JPEG เปิดตัวเมื่อปี 1986 หลังจากนั้น JPEG ก็ค่อยๆ กลายเป็นรูปแบบไฟล์รูปภาพยอดนิยม หนึ่งในการใช้งานซึ่งพบเห็นได้โดยทั่วไปของไฟล์ประเภทนี้ก็คือการอัปโหลดและแชร์รูปภาพดิจิทัลบนเว็บ แม้ JPEG จะเป็นไฟล์รูปแบบสูญเสียข้อมูลที่ทำให้คุณภาพของรูปภาพต้นฉบับลดลงไปบ้าง แต่ไฟล์ JPEG ก็ยังมีคุณภาพดีพอสำหรับการใช้งานแบบดิจิทัล ข้อดีที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของ JPEG ก็คือความเข้ากันได้กับหน่วยประมวลผลภาพและเบราว์เซอร์แทบทุกประเภท
ไฟล์ JPEG 2000 คืออะไร
กลุ่ม Joint Photographic Experts Group ได้สร้างไฟล์ JPEG 2000 ขึ้นมาเช่นเดียวกับ JPEG โดยตั้งใจให้ JPEG 2000 เป็นไฟล์ JPEG เวอร์ชันที่พัฒนาแล้ว ซึ่งมาพร้อมกับอัตราส่วนการบีบอัดที่ดีกว่าเดิมเพื่อให้รูปภาพที่มีคุณภาพมากขึ้น ไฟล์ประเภทนี้ออกแบบมาให้บีบอัดแบบไม่สูญเสียข้อมูล โดยจะเก็บข้อมูลรูปภาพไว้ได้มากขึ้นในระหว่างกระบวนการแปลงไฟล์ ต่างจาก JPEG ใช้การบีบอัดแบบสูญเสียข้อมูล แต่เนื่องจากไฟล์ประเภทนี้มีความซับซ้อนมากขึ้น แอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ที่รองรับไฟล์จึงมีน้อยกว่า ไฟล์ JPEG 2000 จึงไม่เป็นที่นิยมเท่า JPEG
ไฟล์ JPEG และ JPEG 2000 แตกต่างกันอย่างไร
JPEG และ JPEG 2000 อาจใช้ชื่อเดียวกัน แต่ก็เป็นไฟล์รูปภาพสองประเภทที่แตกต่างกันมาก มาสำรวจความแตกต่างเหล่านี้ เพื่อที่คุณจะสามารถเลือกรูปแบบไฟล์ที่ตรงกับความต้องการของคุณที่สุดได้
ความละเอียดของรูปภาพ
คุณภาพของรูปภาพเป็นความแตกต่างแรกที่เห็นได้ชัดระหว่าง JPEG และ JPEG 2000 JPEG 2000 ใช้วิธีการเข้ารหัสที่ซับซ้อนและให้รูปภาพที่มีความละเอียดเหนือกว่า JPEG ทั้งนี้เพราะ JPEG 2000 สามารถบีบอัดไฟล์ได้โดยไม่ทำให้ข้อมูลรูปภาพลดลงมากนักโดยใช้การบีบอัดแบบไม่สูญเสียข้อมูล แต่ก็ยังมีตัวเลือกสำหรับการบีบอัดแบบสูญเสียข้อมูลที่ยังคงคุณภาพสูงให้ใช้หากต้องการ
เนื่องจากไฟล์ JPEG 2000 ใช้การบีบอัดแบบไม่สูญเสียข้อมูล จึงอาจมีขนาดใหญ่กว่า JPEG ซึ่งทำให้การส่ง อัปโหลด และดูรูปภาพบนโลกออนไลน์อาจต้องใช้เวลานานขึ้น
การบีบอัด
JPEG ให้การบีบอัดแบบสูญเสียข้อมูล ดังนั้น ผู้ใช้ที่บันทึกไฟล์เป็น JPEG จะสูญเสียข้อมูลภาพบางส่วนของรูปภาพต้นฉบับไป ผู้คนบางส่วนอาจคิดว่าคุณภาพที่เสียไปนั้นเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนที่ยุติธรรมสำหรับขนาดไฟล์ที่เล็กของ JPEG แต่หลายคนอาจคิดไม่ถึงว่าตนสามารถรักษาคุณภาพที่สูงไว้และทำให้ไฟล์มีขนาดที่สมเหตุสมผลไปพร้อมกันได้ด้วย JPEG 2000
JPEG 2000 ให้ตัวเลือกการบีบอัดทั้งแบบไม่สูญเสียข้อมูลและแบบสูญเสียข้อมูลแก่ผู้ใช้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการเก็บรายละเอียดไว้มากน้อยแค่ไหน เมื่อเทียบกันแล้ว การบีบอัดแบบไม่สูญเสียข้อมูลจะทำให้ได้รูปภาพที่มีคุณภาพสูงกว่า
นอกจากนี้ JPEG 2000 ยังมีอัตราส่วนการบีบอัดที่สูงจึงสามารถบีบอัดรูปภาพได้มากกว่า JPEG ถึง 200% พร้อมทั้งรักษาคุณภาพไว้ได้ดังเดิมเมื่อเทียบกับไฟล์ที่มีขนาดเท่ากัน
การเข้ารหัส
ความแตกต่างที่สำคัญอีกประการของไฟล์ทั้งสองรูปแบบคือโค้ด JPEG 2000 ใช้โค้ดที่ต่างจาก JPEG และโค้ดใหม่นี้ไม่สามารถเข้ากันได้กับซอฟต์แวร์และอุปกรณ์ต่างๆ แบบย้อนหลัง ซึ่งหมายความว่าฮาร์ดแวร์เก่าๆ จะไม่สามารถใช้ JPEG 2000 ได้หากไม่มีการดัดแปลงใดๆ เมื่อ JPEG 2000 เปิดตัวครั้งแรก เหล่าผู้พัฒนาต่างก็ลังเลใจที่จะใช้ไฟล์ประเภทนี้เนื่องจากพวกเขายังต้องเขียนโค้ดสำหรับ JPEG เผื่อไว้ด้วย ซึ่งทำให้ภาระงานเพิ่มขึ้นไปอีก เมื่อผู้พัฒนาไม่ให้การสนับสนุนอย่างแพร่หลาย ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในทุกวันนี้จึงไม่เจอไฟล์ประเภท JPEG 2000 ใหม่ๆ บ่อยเท่ากับ JPEG ซึ่งทำให้อัตราการนำมาใช้เพิ่มช้าลง
นอกจากนี้ JPEG 2000 ยังใช้ RAM มากกว่า JPEG ที่มีมาก่อนอีกด้วย ช่วงที่เปิดตัว JPEG 2000 นั้น คอมพิวเตอร์ทั่วไปมี RAM เพียง 64MB เท่านั้น แม้นี่จะไม่ได้เป็นปัญหาของคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ส่วนใหญ่ แต่ก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ฉุดรั้ง JPEG 2000 ไม่ให้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
ไฟล์ JPEG เทียบกับไฟล์ JPEG 2000: คำถามที่พบบ่อย
ไฟล์ประเภทไหนดีกว่ากันระหว่าง JPEG และ JPEG 2000
ยังมีคนใช้ JPEG 2000 อยู่หรือไม่
ทุกเบราว์เซอร์รองรับ JPEG 2000 หรือไม่
ฉันควรบันทึกไฟล์เป็น JPEG หรือ JPEG 2000
JPEG และ JPEG 2000 มีจุดแข็งและจุดอ่อนแตกต่างกัน ดังนั้นคุณควรเลือกที่จะบันทึกเป็นรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งตามความต้องการของคุณ
- คุณควรบันทึกเป็น JPEG หากคุณต้องการให้ไฟล์ของคุณใช้งานบนเบราว์เซอร์ทั้งหมดได้ และคุณพึงพอใจกับรูปภาพที่มีคุณภาพระดับกลางๆ เช่น เมื่อคุณจะอัปโหลดรูปภาพของคุณไปยังเว็บหรือส่งทางอีเมล เป็นต้น
- คุณควรบันทึกเป็น JPEG 2000 หากคุณต้องการการบีบอัดแบบไม่สูญเสียข้อมูล (กล่าวคือคุณต้องการรักษาคุณภาพของรูปภาพไว้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้) หรือการบีบอัดแบบสูญเสียข้อมูลที่มีคุณภาพสูงกว่าของ JPEG