Generative AI สำหรับชิ้นงานสร้างสรรค์
ความแตกต่างของ Adobe Firefly เมื่อเทียบกับ Stable Diffusion: เพิ่มเติมเสริมไอเดียให้กับเวิร์กโฟลว์ได้อย่างรวดเร็วด้วย Firefly
สำรวจว่าความฝันสุดสร้างสรรค์กับการทดลองจะกลายมาเป็นผลงานจาก AI ได้อย่างไร
ข้อดีของการสร้างงานศิลปะจาก AI ด้วย Adobe Firefly
- Firefly สร้างรูปภาพศิลปะและรูปภาพที่สมจริงราวกับภาพถ่ายที่สวยงามโดยอิงจากข้อความคำสั่งง่ายๆ ที่พิมพ์ลงในอินเทอร์เฟซบนเบราว์เซอร์ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งที่จะช่วยเพิ่มความเร็วให้กับเวิร์กโฟลว์สำหรับงานสร้างสรรค์
- เมื่อ Firefly สร้างรูปภาพ คุณสามารถปรับแต่งผลลัพธ์ได้โดยการเพิ่มคำอธิบายเพิ่มเติมให้กับข้อความคำสั่ง หรือใช้เครื่องมือเพื่อปรับแต่งสไตล์ ธีม แสง และองค์ประกอบก็ได้เช่นกัน
- Firefly ได้รับการออกแบบมาให้สามารถนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากผ่านการเทรนด้วยเนื้อหา Adobe Stock, เนื้อหาแบบไม่จำกัดสิทธิ์การใช้งาน และเนื้อหาที่เป็นสมบัติสาธารณะซึ่งลิขสิทธิ์หมดอายุแล้ว
Generative AI ช่วยครีเอเตอร์สำรวจทุกไอเดียได้อย่างไร
หากคุณเคยสงสัยว่าหมึกยักษ์ที่บุกนิวยอร์กซิตีจะมีลักษณะเป็นอย่างไร Generative AI สามารถแสดงให้คุณเห็นได้
โมเดล Generative AI มีหลายประเภท ตัวอย่างเช่น Large Language Model หรือ LLM ซึ่งออกแบบมาเพื่อสร้างข้อความที่ซับซ้อนจากคำง่ายๆ ไม่กี่คำ Firefly เป็น Diffusion Model ซึ่งออกแบบมาเพื่อสร้างรูปภาพจากข้อความคำสั่ง คำที่คุณใช้ในข้อความคำสั่งจะทำหน้าที่เป็นตัวกำหนดว่าโมเดล Generative AI จะต้องสร้างเนื้อหาประเภทใด เช่น ภาพหมึกยักษ์คืบคลานไปทั่วมหานครนิวยอร์ก
Adobe Firefly แตกต่างจาก Stable Diffusion อย่างไร
Adobe Firefly เป็นกลุ่มโมเดล Generative AI สำหรับงานสร้างสรรค์ ซึ่งมีแผนจะนำไปใช้งานในผลิตภัณฑ์ของ Adobe Creative Cloud เช่น Adobe Express, Photoshop และ Illustrator โมเดลแรกของ Firefly นั้นผ่านการเทรนโดยใช้ชุดข้อมูลของ Adobe Stock, เนื้อหาแบบไม่จำกัดสิทธิ์การใช้งาน และเนื้อหาที่เป็นสมบัติสาธารณะซึ่งลิขสิทธิ์หมดอายุแล้ว รวมถึงใช้คำอธิบายที่เป็นข้อความง่ายๆ เพื่อสร้างรูปภาพที่น่าทึ่ง เอฟเฟกต์ข้อความที่ไม่เหมือนใคร และอีกมากมาย
ไม่ว่าคุณจะต้องการรูปภาพเครื่องยนต์ของรถยนต์รุ่นเก่าหรือบูมบอกซ์แบบย้อนยุคแต่ดีไซน์ล้ำยุค ฟีเจอร์สร้างรูปภาพจากข้อความก็สามารถสร้างให้คุณได้ และนี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น โมเดล Firefly เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถปรับลักษณะต่างๆ ของผลลัพธ์ขั้นต้นได้โดยใช้ชุดเครื่องมือภายในแอป
มีเครื่องมือสร้างรูปภาพที่ขับเคลื่อนด้วย AI จำนวนมากที่มีฟังก์ชันเดียว แต่ Firefly มีความสามารถหลากหลาย ซึ่งรวมถึงเอฟเฟกต์ข้อความ และความสามารถในการเพิ่มหรือลบองค์ประกอบออกจากรูปภาพ ในอนาคต เรามีแผนที่จะเพิ่มฟีเจอร์ให้มากยิ่งขึ้น โดยรวมเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย Firefly มาไว้ในในแอปต่างๆ ของ Creative Cloud เช่น ความสามารถในการปรับแต่งโทนอารมณ์ของวิดีโอ การลบสิ่งรบกวนออกจากภาพถ่าย และการเพิ่มพื้นผิวให้วัตถุ 3 มิติ
นอกเหนือจาก Stable Diffusion สิ่งสำคัญคือควรทราบถึงข้อดีและข้อเสียของเครื่องมือ Generative AI อื่นๆ เช่น DALL E และ Midjourney เมื่อเทียบกับ Firefly
ข้อความคำสั่งสร้างรูปภาพจากข้อความ: บูมบอกซ์แบบย้อนยุคแต่ดีไซน์ล้ำยุคพร้อมแว่นกันแดด
ความมุ่งมั่นของ Adobe ที่มีต่อชุมชนสร้างสรรค์
แล้ว Adobe Firefly ได้รับการเทรนโดยใช้เนื้อหาแบบใด
Adobe Firefly ได้รับการเทรนโดยใช้รูปภาพของ Adobe Stock ตามข้อตกลงสิทธิ์การใช้งานกับเจ้าของผลงานใน Stock, เนื้อหาแบบไม่จำกัดสิทธิ์การใช้งาน และเนื้อหาที่เป็นสมบัติสาธารณะซึ่งลิขสิทธิ์หมดอายุแล้ว ซึ่งหมายความว่า Firefly ออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานเชิงพาณิชย์ได้อย่างปลอดภัย และขณะนี้ผลลัพธ์ของ Firefly พร้อมให้ใช้งานสำหรับวัตถุประสงค์เชิงพาณิชย์แล้ว
โมเดล Generative AI ของ Firefly สร้างขึ้นเพื่อช่วยเหลือครีเอเตอร์ในกระบวนการสร้างชิ้นงาน ไม่ได้ต้องการสร้างขึ้นมาเพื่อทดแทนเหล่าครีเอเตอร์ คุณสามารถอ่านข้อมูลเกี่ยวกับโมเดลการจ่ายค่าตอบแทนให้เจ้าของผลงานใน Adobe Stock ที่อยู่ในชุดข้อมูลสำหรับเทรนโมเดล Firefly ของเราได้ เป้าหมายคือการสร้างโมเดล Generative AI ที่มีประโยชน์ต่อนักสร้างสรรค์และเพิ่มความรวดเร็วให้กับงานสร้างสรรค์อย่างมีความรับผิดชอบ
ประโยชน์ของ Adobe Firefly ที่มีต่องานสร้างสรรค์
การเปลี่ยนไอเดียให้กลายเป็นภาพนั้นต้องใช้เวลาพอสมควร แม้จะเป็นครีเอเตอร์ที่ทำงานได้รวดเร็วที่สุดก็ตาม Adobe Firefly สามารถช่วยศิลปินมือฉมัง ศิลปินดาวรุ่ง นักเขียนที่เต็มไปด้วยจินตนาการ ทีมขององค์กร และเจ้าของธุรกิจขนาดย่อมที่มีประสบการณ์ในด้านการสร้างสรรค์และสื่อสารแนวคิดต่างๆ
ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณเป็นนักออกแบบเว็บไซต์ที่ทำงานในบริษัทเสื้อผ้ารีไซเคิล คุณเข้าไปที่ Firefly และป้อนข้อความคำสั่งว่า “หมวกเบสบอลที่ทำมาจากผ้ายีนส์รีไซเคิลบนพื้นหลังสีเขียวใบไม้” เพื่อสร้างมูดบอร์ดที่นำเสนอวิสัยทัศน์ของคุณให้ลูกค้าได้เห็นเป็นภาพ ลูกค้าชอบไอเดียของคุณ แต่ต้องการดูตัวเลือกที่เป็นผ้าสักหลาดสีเหลืองเพิ่มเติม การปรับข้อความคำสั่งเป็น “เสื้อเชิ้ตที่ทำมาจากผ้าสักหลาดรีไซเคิลลายตารางสีเหลืองและดำแขวนอยู่บนกิ่งไม้” จะทำให้คุณได้พิสูจน์แนวคิดเพื่อให้ช่างภาพมี Shot list เมื่อต้องไปถ่ายภาพในสถานที่จริง เพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่ออกมาตรงตามความต้องการของโปรเจกต์
ตัวอย่างงานจาก AI ที่รวดเร็วจะทำให้คุณไม่เสียเวลาและช่วยให้ทั้งทีมของคุณเข้าใจตรงกัน
คำสั่งสร้างรูปภาพจากข้อความ: รูหนอนที่เปิดในอวกาศและมีเรือใบลำใหญ่จากยุคศตวรรษที่ 17 โผล่ออกมา
วิธีอื่นๆ อีกมากมายที่ Adobe Firefly สามารถช่วยคุณทำงานได้
- สร้างแนวคิดริเริ่มเพื่อมอบแรงบันดาลใจในการออกแบบหน้าปกนิยายวิทยาศาสตร์ให้กับศิลปิน
- ระดมความคิดเกี่ยวกับลวดลายที่มีพื้นผิวสีสันสดใสสำหรับการออกแบบเว็บไซต์ใหม่ให้โดดเด่น
- สำรวจไอเดียสำหรับชุดภาพถ่ายใบหน้าแบบมืออาชีพที่ไม่เหมือนใครสำหรับเอเจนซีชิ้นงานโฆษณา
- ช่วยให้คุณได้ลองใช้มุมต่างๆ ภายในบ้านริมทะเลเพื่อนำเสนอในรูปแบบของภาพถ่ายอสังหาริมทรัพย์ได้จากโต๊ะทำงาน
- ดูว่าเมื่อนำของเล่นไปวางในสภาพแวดล้อมขนาดจิ๋วแล้วจะมีหน้าตาออกมาอย่างไร เพื่อนำเสนอ
- ลองใช้ธีมและตัวแบบต่างๆ กับงานออกแบบวอลเปเปอร์ชิ้นต่อไปของคุณ
วิธีใช้ Adobe Firefly
วิธีปรับแต่งผลงานจาก AI ใน Adobe Firefly
เพิ่มข้อความเพิ่มเติมลงในข้อความคำสั่ง
เลือกประเภทเนื้อหา
ปรับแต่งผลลัพธ์ของคุณด้วย Styles, Lighting และอีกมากมาย
เมื่อคุณสร้างผลงานสร้างสรรค์ออกมา ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพศิลปะหรือรูปภาพที่เหมือนจริงราวกับภาพถ่าย คุณก็สามารถปรับแต่งผลงานเหล่านั้นได้ด้วยเครื่องมือใน Firefly เลือกสไตล์ต่างๆ เช่น คิวบิสม์และแม็กซิมอลลิสม์ ในเมนู Styles ซึ่งมีรูปแบบศิลปะในยุคสมัยต่างๆ และธีมมากมายให้เลือกใช้ อีกทั้งคุณยังสามารถปรับแต่งพื้นผิวของรูปภาพโดยเลือกเป็นวัสดุแบบต่างๆ เช่น ขนสัตว์หรือดินเหนียว ได้อีกด้วย
ปรับแต่งตัวเลือกการจัดแสง รวมทั้งสีและโทนของรูปภาพเพื่อสำรวจรูปดูแบบต่างๆ ของผลลัพธ์ และเลือกองค์ประกอบของภาพถ่ายที่มีให้ใช้งานมากมาย เช่น ภาพถ่ายระยะใกล้ ภาพถ่ายมุมสูง และอีกมากมายเพื่อดูหลายๆ มุมมอง
ผสมผสานและจับคู่ หรือรวมตัวเลือกจากเมนูเหล่านี้เข้าด้วยกันเพื่อสร้างความเป็นไปได้ให้มากยิ่งขึ้นสำหรับข้อความคำสั่งสร้างรูปภาพจากข้อความแต่ละรายการ
คำสั่งสร้างรูปภาพจากข้อความ: บอลลูนลมร้อนที่เต็มไปด้วยดอกไม้และผีเสื้อ, พื้นหลังเป็นท้องฟ้าสีส้ม, ลูกโป่งวันเกิดพร้อมตะกร้า, รูปแบบบาศกนิยม, ภาพมุมกว้าง, ช่วงเวลา Golden Hour, สีสันสดใส
สำรวจเอฟเฟกต์ข้อความใน Adobe Firefly
หลังจากใช้เครื่องมือสร้างรูปภาพด้วย AI ของ Firefly แล้ว ให้ลองเพิ่มรูปภาพไปยังข้อความด้วยโมเดลเอฟเฟกต์ข้อความ เลือกคำหรือวลี เช่น ชื่อแบรนด์ของคุณ หรือชื่อที่ใช้ในโซเชียลมีเดีย แล้วพิมพ์ลงไป จากนั้นอธิบายเอฟเฟกต์ที่ต้องการให้ปรากฏบนข้อความ หรือเลือกจากตัวเลือก เช่น ดอกไม้ ลาวา ขนมปังขิง และอีกมากมาย คลิกปุ่ม Generate และดูข้อความของคุณกลายเป็นผลงานศิลปะจาก AI นอกจากนี้ คุณยังสามารถปรับแต่งแบบอักษร สีตัวอักษร และสีพื้นหลังเพื่อลองใช้ตัวเลือกการสร้างสรรค์ที่หลากหลายได้อีกด้วย
หากต้องการเข้าใจถึงความเป็นไปได้ด้านชิ้นงานสร้างสรรค์ของ Firefly อย่างถ่องแท้ คุณก็ควรลองใช้งานดู รับแรงบันดาลใจจากทุกสิ่งและทุกอย่างที่คุณจินตนาการได้ สำรวจว่า Firefly ช่วยคุณสร้างสรรค์อะไรได้บ้าง