สร้างแบบฟอร์ม PDF ที่กรอกข้อมูลได้บน Chromebook โดยใช้ขั้นตอนต่อไปนี้

ผู้หญิงในสำนักงานใช้ Chromebook เพื่อสร้างแบบฟอร์ม PDF ที่กรอกได้

สิ่งที่ต้องใช้ในการสร้าง PDF ที่กรอกข้อมูลได้แบบกำหนดเองด้วย Chromebook มีเพียงแอปการจัดการ PDF บนเว็บและเคล็ดลับง่ายๆ เหล่านี้

PDF เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการแชร์ข้อมูลและช่วยให้แน่ใจว่ารูปแบบของเอกสารจะยังคงเหมือนเดิม แบบฟอร์ม PDF ที่กรอกข้อมูลได้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดเมื่อคุณต้องการรวบรวมข้อมูลจากเพื่อนร่วมงาน ลูกค้า หรือแม้แต่เพื่อนร่วมชั้น คุณเพียงคำนึงถึงแนวทางเหล่านี้หากต้องการสร้าง PDF ที่กรอกข้อมูลได้บน Chromebook

ใช้แอปพลิเคชันบนเว็บสำหรับ PDF เป็นหลัก

Chromebook มีความอเนกประสงค์และน้ำหนักเบา ทั้งนี้คุณควรเลือกใช้แอปพลิเคชันบนเว็บแทนโปรแกรมเดสก์ท็อปที่ดาวน์โหลดได้เนื่องจากตัวเครื่องใช้ระบบปฏิบัติการเฉพาะ

แอปบนเว็บสำหรับการจัดการ PDF จะใช้งานได้ง่ายกว่าบน Chromebook และจะไม่มีปัญหาด้านความเข้ากันได้ซอฟต์แวร์มากวนใจ หากคุณไม่แน่ใจว่าจะเลือกใช้แอปใด ให้เริ่มต้นด้วย Adobe Acrobat คุณยังสามารถสร้างและแชร์ PDF ที่กรอกข้อมูลได้ด้วยบริการออนไลน์ของ Acrobat

หากต้องการสร้าง PDF ที่กรอกข้อมูลได้โดยใช้ Acrobat ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. เปิด Acrobat คลิกแถบ Tools แล้วเลือก Prepare Form ภายใต้ส่วน Forms and Signatures
  2. หากต้องการเลือกไฟล์ที่มีอยู่ ให้เลือก Single File > Select a File หากต้องการสร้างแบบฟอร์มไฟล์ดิจิทัลใหม่จากเอกสารที่เป็นกระดาษ ให้เลือก Scanner หากต้องการสร้างเอกสารใหม่จากใน Acrobat โดยตรง ให้เลือก Create New หรือ Create a Web Form
  3. Acrobat จะสร้างช่องในแบบฟอร์มที่กรอกข้อมูลได้โดยอัตโนมัติหากใช้งานจากเอกสารที่มีอยู่หรือเอกสารที่สแกนแล้ว
  4. หากต้องการสร้างช่องในแบบฟอร์มใหม่ ให้ใช้แถบเครื่องมือที่ด้านบนของหน้าจอ หากต้องการแก้ไขช่องในแบบฟอร์ม ให้ใช้แถบเครื่องมือทางด้านขวาของหน้าจอ
  5. เมื่อแบบฟอร์มเสร็จสมบูรณ์แล้ว ให้เลือก File > Save As แล้วส่งให้กับผู้ร่วมงานเพื่อเซ็นในภายหลัง หรือคลิก Distribute เพื่อรวบรวมคำตอบและลายเซ็นในทันที

หากต้องการสร้าง PDF ที่กรอกข้อมูลได้โดยใช้ Acrobat ออนไลน์ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้

  1. เลือก Tools > All Tools
  2. เลื่อนลงไปยังส่วนหัวลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์
  3. เลือกการดำเนินการที่เหมาะสมกับโปรเจกต์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแบบฟอร์มบนเว็บ การสร้างเทมเพลตลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ การส่งคำขอลายเซ็น หรืออีกมากมาย

รวบรวมข้อมูลด้วยช่องในแบบฟอร์มบน PDF

หากต้องการสร้างแบบฟอร์ม ให้ล็อกอินแอป PDF บนเว็บแล้วเริ่มต้นด้วยเทมเพลต หรือสำรวจดูวิธีอื่นๆ เพื่อสร้างแบบฟอร์มตั้งแต่ต้น

หากต้องการสร้างแบบฟอร์มโดยใช้ Acrobat ออนไลน์ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้

  1. จากหน้าจอหลัก ให้เลือกลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์จากแบนเนอร์ด้านบน หรือไปที่ส่วนหัวลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ด้วยการคลิก All Tools
  2. คลิก “Create e-sign template”
  3. เลือกเอกสารที่มีอยู่เพื่อแปลงเป็น PDF ที่กรอกข้อมูลได้ ปรับแต่งการตั้งค่าเอกสารและการเข้าถึงจากตัวเลือกทางด้านขวา
  4. คลิก Preview > Add Fields
  5. ใช้แถบเครื่องมือที่ด้านบนขวาของหน้าจอเพื่อปรับแต่งและเพิ่มช่องในแบบฟอร์ม

เมื่อสร้างเอกสาร ให้พิจารณาประเภทของข้อมูลที่ต้องการรวบรวม (เช่น ชื่อ ที่อยู่ หรือหมายเลขโทรศัพท์) แล้วสร้างช่องในแบบฟอร์มให้กับข้อมูลแต่ละประเภท ช่องในแบบฟอร์มจะเป็นพื้นที่ว่าง กล่องทำเครื่องหมาย ปุ่มตัวเลือก หรือฟีเจอร์ที่คล้ายกันซึ่งจะช่วยให้ผู้คนสามารถป้อนข้อมูลลงใน PDF ที่กรอกข้อมูลได้ เมื่อแบบฟอร์มมีทุกช่องที่คุณต้องการแล้ว ให้บันทึกเป็นรูปแบบ PDF (.pdf) แล้วเริ่มแชร์

คุณยังสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีกรอกและเซ็นชื่อใน PDF ได้ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ผู้ร่วมงานจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อคุณแชร์แบบฟอร์มที่กรอกข้อมูลได้ที่สร้างขึ้นให้กับพวกเขาแล้ว

  1. จากหน้าจอหลักของ Acrobat ออนไลน์ ให้เลือกลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์จากแบนเนอร์ด้านบน หรือไปที่ส่วนหัวลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ด้วยการคลิก All Tools
  2. คลิก Fill & Sign
  3. เลือกไฟล์ที่ต้องการเซ็นชื่อ
  4. ใช้แถบเครื่องมือทางด้านซ้ายเพื่อขอลายเซ็นจากผู้อื่นหรือเซ็นชื่อในเอกสารด้วยตนเอง
  5. เมื่อดำเนินการเสร็จสมบูรณ์แล้ว ให้ใช้ไอคอนที่มุมบนขวาเพื่อเลือกว่าจะทำสิ่งใดต่อไปในเอกสาร ไม่ว่าจะเป็นอ่านออกเสียง แชร์ลิงก์ ดาวน์โหลด และอีกมากมาย

สามารถกู้คืน PDF ที่กรอกข้อมูลได้บน Chromebook ได้หรือไม่

บางทีเอกสารอาจสูญหายหรือคุณอาจเผลอลบเอกสาร ข่าวดีก็คือ Chromebook มีฟีเจอร์ในการกู้คืนไฟล์เหล่านี้ ซึ่งรวมถึง PDF ที่กรอกข้อมูลได้ หากมีความจำเป็นต้องกู้คืน PDF ให้ลองตัวใช้เลือกต่อไปนี้

เรียกคืนจาก Recycle Bin

กู้คืน PDF จาก Recycle Bin หรือโฟลเดอร์ Trash หากยังไม่ได้เปิดใช้งาน Recycle Bin บน Chromebook ให้เปิดใช้งานโดยใช้ขั้นตอนเหล่านี้

  1. เปิดแอปไฟล์
  2. คลิกจุดสามจุดที่มุมบนขวาแล้วเลือก Settings
  3. เลือก Show Recycle Bin
  4. เลือกไฟล์ที่ต้องการแล้วคลิก Restore
  5. หากต้องการเปิดใช้งานโฟลเดอร์ Trash ให้เปิด Chrome แล้วพิมพ์ chrome://flags ลงในแถบที่อยู่
  6. ค้นหา Enable Files Trash
  7. เปิดใช้งานแฟล็กแล้วรีสตาร์ท Chromebook เพื่อดำเนินการอัปเดตให้เสร็จสมบูรณ์ โฟลเดอร์ Trash จะปรากฏในเมนู Files หลังจากรีสตาร์ท

เรียกคืนจากการสำรองข้อมูล

กู้คืน PDF จากแหล่งสำรองข้อมูล เมื่อสำรองข้อมูลไฟล์โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือพื้นที่เก็บข้อมูลภายนอก คุณอาจกู้คืนไฟล์ดังกล่าวหรืออย่างน้อยที่สุดไฟล์เวอร์ชันก่อนหน้าจากส่วนนั้นได้ ตรวจสอบตำแหน่งสำรองข้อมูลที่เป็นไปได้ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์อย่าง Google Drive, Dropbox หรือตำแหน่งที่อาจส่งไฟล์ก่อนหน้านี้

เรียกคืนจากซอฟต์แวร์กู้คืน

กู้คืน PDF โดยใช้ซอฟต์แวร์กู้คืนข้อมูลภายนอก แม้ว่าข้อมูลบางส่วนอาจสูญหายไปจากไฟล์ แต่ก็สามารถกู้คืนไฟล์บางเวอร์ชันได้

เริ่มต้นใช้งาน PDF ที่กรอกข้อมูลได้ สำรวจดูทุกสิ่งที่คุณทำได้ด้วย Acrobat วันนี้เลย