สำรวจโลกของการออกแบบโลโก้สไตล์โมเดิร์น

1. ทำความรู้จักลูกค้าของคุณ

ก่อนที่คุณจะสามารถออกแบบโลโก้ได้ คุณต้องเข้าใจแบรนด์ก่อน ไปพบกับลูกค้าของคุณเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกค้ากำลังมองหาและเหตุผลที่ต้องการออกแบบโลโก้ใหม่ “ฉันไม่คิดว่าการออกแบบโลโก้ใหม่เป็นสิ่งที่ควรทำทุกปีหรือแม้กระทั่งทุกๆ สองปี เนื่องจากคุณกำลังเริ่มต้นการจดจำแบรนด์ของคุณใหม่ ดังนั้นการออกแบบโลโก้ใหม่จึงต้องคุ้มค่าที่จะทำจริงๆ” Giffrow กล่าว

ถามคำถามที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ผลิตภัณฑ์หรือบริการของลูกค้าคืออะไร อะไรทำให้บริษัทของลูกค้าไม่เหมือนใคร กลุ่มเป้าหมายคือใคร คู่แข่งคือใคร เอกลักษณ์ของแบรนด์คืออะไร และลูกค้าชอบโลโก้แบบใด เมื่อคุณได้คำตอบเหล่านี้แล้ว คุณก็พร้อมที่จะเริ่มออกแบบแล้ว

2. ศึกษาอุตสาหกรรม

คุณจำเป็นต้องศึกษาเกี่ยวกับบริบทที่จะนำโลโก้ไปใช้งาน เพื่อให้ออกแบบโลโก้ได้อย่างเหมาะสม แบรนด์อื่นๆ ในอุตสาหกรรมทำการตลาดให้กับตัวเองอย่างไร เมื่อคุณรู้ว่าคู่แข่งกำลังทำอะไรอยู่ คุณก็จะรู้ว่าต้องทำอย่างไรให้โลโก้นี้แตกต่างจากโลโก้ของแบรนด์อื่นๆ นอกจากนี้ต้องคำนึงด้วยว่าจะมีการนำโลโก้ไปใช้ที่ใดบ้าง ให้ดูว่าธุรกิจนั้นเป็นรูปแบบดิจิทัลทั้งหมดหรือไม่ หรือจะมีการนำโลโก้ไปใช้บนป้ายหรือพิมพ์ลงบนสินค้าหรือไม่

3. ร่างไอเดียออกมา

ตอนนี้ก็ถึงเวลาถ่ายทอดไอเดียลงบนกระดาษแล้ว ร่างไอเดียหรือความคิดเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณนึกขึ้นได้ออกมา โดยไอเดียเหล่านี้จะเป็นแบบคร่าวๆ และยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งไม่ควรนำเสนอแก่ลูกค้า “มีเพียงผมเท่านั้นที่รู้ว่าแบบร่างจะออกมาเป็นอย่างไร ส่วนลูกค้านั้นจะนึกภาพผลลัพธ์จากแบบร่างได้ยากกว่า ดังนั้นทุกครั้งที่นำเสนอแบบร่างให้ลูกค้าดูก่อน ผมจึงรู้สึกอยู่เสมอว่าไม่น่าเลย เพราะมีไอเดียที่ดีมากหลายอันที่ถูกปัดตก ส่วนไอเดียแย่ๆ กลับได้รับเลือกทั้งที่ดูไปต่อไม่ได้” Bokhua อธิบาย

4. ทำตามไอเดียที่คุณชื่นชอบ

เมื่อคุณได้ร่างแบบโลโก้แบบคร่าวๆ ออกมาบางส่วนแล้ว ให้เลือกแบบร่างที่คุณชื่นชอบและพัฒนาแบบเหล่านั้นเพิ่มเติมด้วย Adobe Illustrator “สำหรับมือใหม่ ฉันขอแนะนำให้ใช้เวลาอย่างน้อยสามหรือสี่วันในการพัฒนาไอเดีย เพราะโดยปกติแล้วการพัฒนาแบบร่างอย่างง่ายเหล่านั้นต้องอาศัยกระบวนการในการพัฒนา” Bokhua กล่าว

ให้คงงานออกแบบของคุณในขั้นนี้เป็นสีขาวดำไว้ก่อน เนื่องจากคุณต้องทำให้โลโก้แสดงผลได้ดีในโทนสีเทาด้วย ใช้ไฟล์เวกเตอร์เพื่อให้ได้ลายเส้นที่ชัดเจนและการไล่ระดับสีที่ต่อเนื่องกันซึ่งแก้ไขได้ง่าย นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณปรับขนาดโลโก้เป็นขนาดต่างๆ ได้ตามต้องการโดยไม่ทำให้รูปภาพมีคุณภาพด้อยลง

5. นำเสนอแก่ลูกค้าและรับความคิดเห็น

แสดงแบบโลโก้แก่ลูกค้าและดูว่าลูกค้ามีความคิดเห็นอย่างไร แต่ควรจำกัดจำนวนตัวเลือกที่จะแสดงให้ลูกค้าดูด้วย “การเลือกแบบโลโก้จากทั้งหมด 45 แบบที่คุณมีนั้นเป็นเรื่องยากสำหรับทุกคน โดยแบบที่ดีนั้นมักจะไม่ได้รับเลือก วิธีนี้จึงไม่ใช่วิธีที่ดีนัก สำหรับผม ผมมักจะเสนอตัวเลือกให้สามแบบ” Bokhua กล่าว

อย่าเพิ่งรู้สึกท้อใจหากลูกค้าขอให้แก้ไขและปรับปรุง การสร้างแบรนด์เป็นกระบวนการที่ต้องใช้การออกแบบและการแก้ไขหลายครั้งจึงจะได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดี หากลูกค้าชอบลักษณะเฉพาะของการออกแบบต่างๆ ให้ลองดูว่าคุณสามารถรวมลักษณะเฉพาะเหล่านั้นให้เป็นโลโก้ใหม่ได้อย่างไร

6. แก้ไขและปรับแต่งการออกแบบให้เสร็จสมบูรณ์

เมื่อคุณได้รับความคิดเห็นทั้งหมดแล้ว คุณก็ย้อนกลับไปที่การออกแบบโลโก้และแก้ไขได้ ตอนนี้ก็ถึงเวลาลองใช้จานสีต่างๆ แล้ว คุณอาจต้องตรวจสอบและแก้ไขกับลูกค้าหลายครั้งเพื่อให้ได้โลโก้ที่สมบูรณ์แบบในท้ายที่สุด