BMP เทียบกับ PNG
BMP และ PNG เป็นประเภทไฟล์รูปภาพที่มีคุณภาพสูงและมีขนาดใหญ่ทั้งคู่ ขณะที่ไฟล์ BMP เป็นไฟล์ RAW ที่ไม่มีการบีบอัด แต่คุณสามารถบีบอัดไฟล์ PNG เพื่อให้มีขนาดเล็กลงและง่ายต่อการจัดการมากขึ้นได้ อ่านต่อเลยเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความแตกต่างหลักๆ ระหว่างรูปแบบ BMP กับรูปแบบ PNG
สิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้
- ไฟล์ BMP คืออะไร
- ไฟล์ PNG คืออะไร
- ไฟล์ BMP และไฟล์ PNG แตกต่างกันอย่างไร
- ไฟล์ BMP เทียบกับไฟล์ PNG: คำถามที่พบบ่อย
ไฟล์ BMP คืออะไร
BMP ย่อมาจากคำว่า Bitmap (บิตแมป) ซึ่งเป็นประเภทไฟล์ที่สามารถแสดงภาพได้อย่างแม่นยำโดยไม่ขึ้นกับอุปกรณ์ที่แสดงรูปภาพ รูปแบบไฟล์นี้จะรักษาคุณภาพของรูปภาพให้อยู่ในระดับสูงและรักษารายละเอียดจำนวนมากของรูปภาพเอาไว้โดยจัดการพิกเซลแต่ละพิกเซลของรูปภาพแยกกัน แม้คุณสมบัติเช่นที่ว่าไปจะทำให้ไฟล์ BMP ทั่วไปมีขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่ก็ส่งผลให้ไฟล์ประเภทนี้แก้ไขได้ง่ายด้วยเช่นกัน
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับไฟล์ BMP
ไฟล์ PNG คืออะไร
PNG ย่อมาจาก Portable Network Graphic เดิมทีนั้น ไฟล์ PNG ออกแบบมาเพื่อการนำรูปภาพคุณภาพสูงมาใช้งานบนอินเทอร์เน็ต โดยไฟล์จะมีขนาดใหญ่ ใช้งานได้หลากหลาย และมีข้อดีที่การบีบอัดแบบไม่สูญเสียข้อมูล ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถปรับขนาดรูปภาพได้โดยไม่ทำให้คุณภาพลดลง แม้ไฟล์ประเภทอื่นจะมีความแพร่หลายมากกว่า แต่ไฟล์ PNG นั้นถือว่าเป็นเครื่องมือชิ้นโปรดของเหล่านักออกแบบกราฟิกเลยทีเดียว
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับไฟล์ PNG
ไฟล์ BMP และไฟล์ PNG แตกต่างกันอย่างไร
ไฟล์ BMP และไฟล์ PNG นั้นเหมือนกันในหลายด้าน ทั้งคู่เป็นไฟล์ประเภทราสเตอร์ที่พัฒนาขึ้นและเปิดตัวในปีเดียวกัน สิ่งที่แตกต่างมากที่สุดระหว่างทั้งสองคือการบีบอัด
ไฟล์ BMP นั้นเป็นไฟล์ที่ไม่มีการบีบอัดและเป็นไฟล์แบบไม่สูญเสียข้อมูล ไฟล์ประเภทนี้เป็นไฟล์ขนาดใหญ่ที่จะเก็บรายละเอียดไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในทางกลับกัน ไฟล์ PNG นั้นเป็นไฟล์ที่มีการบีบอัด แต่ก็เป็นไฟล์แบบไม่สูญเสียข้อมูลเช่นกัน คุณจะไม่สูญเสียข้อมูลใดๆ เมื่อย่อหรือขยายไฟล์ PNG ด้วยขนาดไฟล์ที่เล็กกว่าและสามารถบีบอัดได้ ไฟล์ PNG นั้นจึงใช้ง่ายกว่า
ความแตกต่างอื่นๆ ระหว่างไฟล์ BMP และไฟล์ PNG มีดังนี้
รูปภาพที่มีความจริงแท้มากขึ้น
บางครั้งไฟล์ BMP ก็เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “รูปภาพที่แท้จริง” เนื่องจากมีการเรนเดอร์พิกเซลแต่ละพิกเซลแยกกันภายในไฟล์ ไฟล์ประเภทนี้ไม่ได้บีบอัดโดยอัตโนมัติ ซึ่งทำให้ไฟล์มีขนาดใหญ่ ดังนั้น การมีไฟล์ BMP จำนวนมากๆ จะผลาญหน่วยความจำและพื้นที่จัดเก็บอย่างรวดเร็ว
ไฟล์ PNG ก็แสดงผลรูปภาพคุณภาพสูงเช่นกัน แต่ต่างกับ BMP ตรงที่ใช้การบีบอัด ไฟล์ประเภทนี้เหมาะสำหรับกราฟิกที่เรียบง่าย เช่น ไอคอน โลโก้ การวาดเส้น การ์ตูนช่อง และกราฟิกแบบฝัง
ขนาดไฟล์
หากรูปภาพหรือเนื้อหาเหมือนกัน ไฟล์ BMP จะมีขนาดใหญ่กว่าไฟล์ PNG ไฟล์ทั้งสองประเภทจะเก็บรายละเอียดและข้อมูลไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ไฟล์ PNG มีการบีบอัดโดยอัตโนมัติ และสามารถบีบอัดอีกครั้งเพื่อให้ไฟล์มีขนาดเล็กลงไปอีกได้ ส่วนไฟล์ BMP นั้นมีข้อจำกัดด้านขนาดกว้างยาวของรูปภาพ โดยจะมีขนาดได้ไม่เกิน 4GB เท่านั้น เนื่องจากไฟล์ประเภทนี้จะจัดการพิกเซลแต่ละพิกเซลแยกจากกัน
การใช้งานทั่วไป
BMP จะจัดเก็บรูปภาพคุณภาพสูงโดยคงรายละเอียดไว้ให้มากที่สุด เมื่อเปิดตัวครั้งแรก คุณสมบัตินี้ทำให้ BMP เหมาะสำหรับการแก้ไขอย่างยิ่ง แต่ไฟล์ประเภทที่พัฒนาขึ้นในภายหลังนั้นเหนือกว่าไฟล์ BMP ในแง่ของการใช้งานเพื่อการแก้ไข ผู้คนในปัจจุบันจึงใช้ไฟล์ BMP เพื่อจัดเก็บข้อมูลกันเป็นส่วนใหญ่
วัตถุประสงค์แต่เดิมของไฟล์ PNG คือการนำรูปภาพมาใช้งานบนเว็บไซต์ โดยไฟล์ประเภทนี้เป็นส่วนสำคัญของเว็บไซต์จำนวนมาก และเหมาะสำหรับใช้เป็นภาพประกอบ ภาพร่าง ภาพวาด โลโก้ และไอคอนขนาดเล็ก นักออกแบบกราฟิกมักจะใช้ไฟล์ PNG สำหรับงานกราฟิกแบบสแตนด์อโลน
ทั้งนี้ PNG ช่วยให้การใช้งานความโปร่งใสในไฟล์นั้นง่ายเป็นพิเศษเมื่อรูปภาพมีวัตถุเพียงชิ้นเดียว โดยมีขอบเขตที่กำหนดไว้ชัดเจนและมีพื้นที่ขนาดใหญ่ล้อมรอบวัตถุดังกล่าว เช่น โลโก้หรือไอคอน นักออกแบบกราฟิกจึงสามารถนำรูปภาพไปใช้ได้อย่างง่ายดายเมื่อเรนเดอร์พื้นหลัง ไม่ว่าจะมีเลเยอร์หรือไม่ก็ตาม
การบีบอัด
ไฟล์ BMP และ PNG เป็นไฟล์รูปแบบไม่สูญเสียข้อมูลทั้งคู่ ซึ่งหมายความว่าหลังจากที่บีบอัดแล้ว คุณสามารถกู้คืนไฟล์ทั้งสองประเภทให้มีคุณภาพสูงสุดเหมือนเดิมได้
BMP ใช้อัลกอริธึมที่เรียบง่ายในการบีบอัดรูปภาพให้เล็กลงอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนไฟล์ PNG นั้นจะบีบอัดไฟล์ให้มีขนาดเล็กลงอย่างรวดเร็ว อีกทั้งคุณยังสามารถบีบอัดได้หลายครั้งอีกด้วย
คุณภาพ
ไฟล์ BMP มีคุณภาพสูงกว่าเล็กน้อยเนื่องด้วยวิธีจัดการพิกเซลและรูปแบบ RAW ของไฟล์ประเภทนี้ อย่างไรก็ตาม คุณภาพของไฟล์ BMP และ PNG นั้นไม่ได้แตกต่างกันมากนัก
การพิมพ์
ไฟล์ BMP และไฟล์ PNG ต่างไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีสำหรับการพิมพ์เนื่องจากทั้งสองมีข้อจำกัดในด้านการพิมพ์ด้วยกระดาษและหมึกจริง โดยไฟล์ทั้งสองประเภทนี้ีมีปัญหากับสเกลสี CMYK (สีเขียวแกมน้ำเงิน สีม่วงแดง สีเหลือง สีหลัก/ดำ) เป็นพิเศษ
ไฟล์ BMP เทียบกับ PNG: คำถามที่พบบ่อย
โปรแกรมที่สามารถเปิดไฟล์ BMP ได้มีอะไรบ้าง
ไฟล์ BMP สามารถเข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการและโปรแกรมการออกแบบจำนวนมาก ซึ่งรวมถึง Adobe Photoshop และ Adobe Illustrator
ไฟล์ BMP มีขนาดใหญ่กว่า PNG หรือไม่
หากทั้งสองไฟล์จัดเก็บรูปภาพที่เหมือนกัน ไฟล์ BMP จะมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย แต่เนื่องจากไฟล์ BMP มีขนาดกว้างยาวที่แน่นอน โดยทั่วไปแล้ว ไฟล์ประเภทนี้จึงมีขนาดไม่เกิน 4GB ส่วน PNG นั้นไม่มีขีดจำกัดด้านขนาด จึงสามารถมีขนาดใหญ่ได้ถึง 140GB หรือมากกว่านั้นได้
ไฟล์ BMP และ PNG จัดการสีด้วยวิธีที่ต่างกันหรือไม่
ไฟล์ทั้งสองประเภทมีวิธีจัดการสีแทบจะเหมือนกัน โดยสามารถมอบหมายสีที่แตกต่างกันไปยังพิกเซลได้ประมาณ 16,777,216 สี ถึงอย่างนั้น ไฟล์ BMP ก็จะมีประสิทธิภาพมากกว่าหากใช้จานสีที่จำกัดและมีขนาดเล็กลง ทั้งนี้ รูปภาพทั้งสองประเภทแสดงผลได้ดีในสีขาวดำ
ไฟล์ใดมีประโยชน์กว่ากันระหว่าง BMP กับ PNG
ไฟล์ BMP กำลังได้รับความนิยมน้อยกว่าไฟล์ PNG ลงเรื่อยๆ แม้ไฟล์ BMP จะมีคุณภาพสูงและแก้ไขง่าย (โดยเฉพาะกับโปรแกรม Microsoft) แต่ไฟล์รูปภาพประเภทอื่นๆ ก็กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นสำหรับการแก้ไขและการจัดเก็บข้อมูล คุณสามารถใช้ไฟล์ PNG ได้กับรูปภาพคุณภาพสูงและการออกแบบขนาดเล็กอันเรียบง่าย นอกจากนี้ ไฟล์ประเภทดังกล่าวยังเหมาะสำหรับแสดงรูปภาพบนอินเทอร์เน็ตเป็นพิเศษอีกด้วย
เปรียบเทียบ BMP และ PNG กับไฟล์ประเภทอื่น
ดูความแตกต่างระหว่างไฟล์ BMP และ JPEG อันเป็นที่นิยม
เรียนรู้ว่าไฟล์เหล่านี้เหมาะกับรูปภาพคุณภาพสูงที่มีรายละเอียดอันซับซ้อนอย่างไร
มาดูกันว่ารูปแบบไฟล์รูปภาพออนไลน์ยอดนิยมเหล่านี้มีการใช้งานที่ต่างกันอย่างไร
สำรวจรูปแบบไฟล์รูปภาพความละเอียดสูงที่มีความอเนกประสงค์เหล่านี้