การสร้างวิดีโอภาพเคลื่อนไหว: คู่มือทีละขั้นตอน

เสน่ห์ของภาพเคลื่อนไหว

ภาพเคลื่อนไหวนั้นทรงพลัง เพราะสามารถทำสิ่งที่แทบเป็นไปไม่ได้หากใช้คนแสดง วิดีโออธิบายแบบภาพเคลื่อนไหวสามารถแสดงให้คุณเห็นถึงกลไกภายในเครื่องจักรที่ซับซ้อนด้วยมุมกล้องที่เป็นไปไม่ได้เลยในโลกแห่งความเป็นจริง ภาพเคลื่อนไหวบนกระดานไวท์บอร์ดสามารถอธิบายแนวคิดอันซับซ้อนได้ด้วยลายเส้นง่ายๆ วิดีโอวิทยาศาสตร์จากภาพเคลื่อนไหวสามารถพาคุณเข้าไปในภูเขาไฟหรือลอยสู่ห้วงอวกาศได้ ส่วนบทช่วยสอนที่เป็นภาพเคลื่อนไหวและกราฟิกเคลื่อนไหวก็สามารถเปลี่ยนหัวข้อที่ชวนปวดหัวเป็นภาพที่สนุกสนานได้ บทความนี้จะอธิบายสิ่งที่อยู่ในภาพเคลื่อนไหวและขั้นตอนพื้นฐานของการสร้างวิดีโอ

บท สตอรี่บอร์ด และแอนิเมติก

ก่อนที่นักสร้างวิดีโอมืออาชีพจะสร้างภาพเคลื่อนไหวในเฟรมหนึ่งๆ ก็ต้องผ่านขั้นตอนการวางแผนอย่างละเอียดถี่ถ้วน

บทและการวางแผน

การสร้างวิดีโอระดับมืออาชีพเริ่มต้นด้วยแนวคิด "ทุกอย่างต้องเริ่มต้นด้วยคอนเซปต์" นักออกแบบภาพเคลื่อนไหว Griffen Snow กล่าว ข้อนี้อาจเป็นความจริงสำหรับทุกสิ่ง แต่สำคัญสำหรับภาพเคลื่อนไหวเป็นพิเศษ เนื่องจากจะครึ่งหรือหนึ่งวินาทีใดก็ตามล้วนเป็นผลมาจากการวางแผนอย่างรอบคอบและบางครั้งอาจต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง เมื่อคุณกำหนดสิ่งที่ต้องการจะสื่อได้แล้ว ก็ต้องคิดว่าจะสื่อออกมาอย่างไร

ก่อนที่จะร่างตัวละครหรือบันทึกเสียง คุณต้องมีบทก่อน ระบุประเด็นหลักของเรื่องราวที่คุณพยายามจะเล่า ไม่ว่าจะเป็นนักการตลาดที่ต้องการขายแอปหรือผู้เชี่ยวชาญที่ต้องการอธิบายแนวคิดบางอย่าง กำหนดจังหวะของเรื่องราวและระบุประเภทของแอสเซทที่คุณจะต้องใช้ คุณจะต้องใช้เครื่องมือภาพเคลื่อนไหวอะไรบ้าง คุณจะใช้ตัวละครที่เคลื่อนไหวหรืออินโฟกราฟิกไหม คุณจะใช้สต็อกวิดีโอไหม ตัดสินใจเรื่องเหล่านี้ตั้งแต่เนิ่นๆ

แก้งาน รับคำติชม และแก้งานอีกครั้ง วิดีโอระดับมืออาชีพมักต้องได้รับการอนุมัติจากหลายฝ่าย ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคนจะต้องได้ยืนยันในเวอร์ชันสุดท้ายก่อนที่คุณจะลงมือในขั้นตอนถัดๆ ไปจนยากจะกลับมาแก้ไข หากคุณต้องยื่นให้ผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือแผนกกฎหมายตรวจบท คุณคงไม่อยากทำแบบนั้นบ่อยเกินความจำเป็น

Style Frames

หลังจากเขียนบทเสร็จแล้ว ให้คิดว่าคุณจะใส่ภาพในวิดีโอของคุณอย่างไร คุณอาจมีแอสเซทหรือการสร้างแบรนด์สำหรับวิดีโออยู่แล้ว หรือนักสร้างภาพเคลื่อนไหวและนักออกแบบอาจสร้างภาพใหม่ทั้งหมดสำหรับวิดีโอ ไม่ว่าในกรณีใด Style Frames จะเป็นภาพที่สื่อให้เห็นรูปลักษณ์และอารมณ์ของวิดีโอ โดยทั่วไปแล้วภาพที่เป็น Style Frames จะมีสีและอาจคล้ายคลึงกับ Concept Art มาก เนื่องจากใช้แสดงให้ผู้สร้างและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้าใจตรงกันว่าทีมภาพเคลื่อนไหวมีเป้าหมายอะไร

สตอรี่บอร์ด

สตอรี่บอร์ดคือส่วนผสมระหว่างบทและภาพ ซึ่งดูละม้ายคล้ายคลึงกับหนังสือการ์ตูน ผู้กำกับจะซิงค์บทกับช็อตหนึ่งๆ หรือองค์ประกอบภาพอื่นๆ ที่ต้องการให้ปรากฏในผลงานสำเร็จ สตอรี่บอร์ดทำหน้าที่เป็นแนวทางและเทมเพลตสำหรับช็อตต่อๆ ไป และเป็นข้อมูลอ้างอิงที่เป็นประโยชน์ในขั้นตอนการตัดต่อวิดีโอ

ภาพสตอรี่บอร์ดไม่จำเป็นต้องดูสวยงาม จะเป็นลายเส้นรูปคนเหมือนเด็กอนุบาล ภาพสเก็ตช์เป็นบล็อกๆ หรือภาพวาดง่ายๆ ก็ได้ สิ่งสำคัญคือช่วยให้ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวิดีโอมีเข้าใจว่าองค์ประกอบของแต่ละช็อตเป็นอย่างไร ช็อตหนึ่งจะนำไปสู่อีกช็อตหนึ่งอย่างไร และจังหวะของเรื่องราวเบื้องต้นเป็นอย่างไร

แอนิเมติกและ Scratch Track

แอนิเมติก (Animatic) บางครั้งเรียกอีกอย่างว่าบอร์โดเมติก (Boardomatic) เหมือนกับสตอรี่บอร์ดในเวอร์ชันภาพเคลื่อนไหว ช็อตทั้งหมดจะได้รับการตัดต่อรวมกันและใส่ลงในแทร็กเสียงคร่าวๆ ที่เรียกว่า Scratch Track Scratch Track เป็นสตอรี่บอร์ดสำหรับบท ซึ่งจะมีคนอ่านบทไปตามสตอรี่บอร์ด

กระบวนการนี้ทำให้นักสร้างภาพเคลื่อนไหวและผู้กำกับรู้จังหวะเวลาที่จะใส่เสียงพากย์หรือบทสนทนาในภาพเคลื่อนไหว และเข้าใจความลื่นไหลและอารมณ์ที่สื่อผ่านแอสเซทในบริบทได้ดีขึ้น

เมื่อคุณเข้าใจจังหวะเวลาในภาพรวมแล้ว ให้ใช้โอกาสนี้ตัดแต่งและรวบองค์ประกอบที่อาจยาวเกินไปเล็กน้อยให้กระชับ รวมถึงองค์ประกอบที่อาจทำให้ผู้ชมเบื่อ "คุณต้องสู้กับช่วงความสนใจของผู้คนเสมอ โดยเฉพาะในขั้นตอนนี้" Snow กล่าว "ผมชอบทำวิดีโอสูงสุด 90 วินาที และเราควรดึงดูดคนให้ได้ภายในหกวินาทีแรก"

เสียง ภาพเคลื่อนไหว และขั้นตอนหลังการถ่ายทำ

หลังจากจบขั้นตอนการวางแผนแล้ว คุณสามารถเริ่มเขียนบทสนทนา สร้างภาพเคลื่อนไหว และออกแบบองค์ประกอบอื่นๆ ที่ผู้ชมจะเห็นและได้ยิน คุณอาจลงมือทำงานในแอปต่างๆ ในขั้นตอนนี้ เช่น บันทึกเสียงใน Adobe Audition และใส่องค์ประกอบภาพใน Adobe After Effects

เสียงพากย์

โดยส่วนใหญ่แล้ว คุณควรบันทึกเสียงพากย์ก่อนเริ่มสร้างภาพเคลื่อนไหว Scratch Track จะช่วยให้คุณเห็นภาพคร่าวๆ ว่าแต่ละซีนหรือส่วนของบทจะใช้เวลานานเพียงใด แต่เสียงพากย์จะช่วยให้นักสร้างภาพเคลื่อนไหวทราบเวลาที่แน่นอนในการทำงาน บันทึกบทสนทนาที่คุณวางแผนจะใช้ก่อนสร้างภาพเคลื่อนไหว จากนั้นให้นักสร้างภาพเคลื่อนไหวที่เชี่ยวชาญลงมือซิงค์การกระทำกับเสียงพูด

ภาพเคลื่อนไหว

ภาพเคลื่อนไหวคือกระบวนการที่ซับซ้อนซึ่งมีหลากสไตล์และหลายประเภท โดยเป็นอะไรก็ได้ ตั้งแต่เอฟเฟกต์ Stop-motion ของฮอลลีวูดในอดีตไปจนถึงภาพเคลื่อนไหว 3 มิติที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์

ภาพเคลื่อนไหวเวกเตอร์เป็นรูปแบบภาพเคลื่อนไหวที่สร้างได้ง่ายที่สุดรูปแบบหนึ่งสำหรับนักสร้างภาพเคลื่อนไหวหน้าใหม่ ซึ่งเป็นรูปแบบภาพเคลื่อนไหวที่ได้รับความนิยมในโลกออนไลน์ และเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสำหรับการสร้างวิดีโอแรกของคุณ คู่มือการสร้างภาพเคลื่อนไหวเวกเตอร์ใน Adobe Animate นี้จะอธิบายพื้นฐานเกี่ยวกับการเปลี่ยนภาพสเก็ตช์หรือภาพนิ่งอื่นๆ เป็นวิดีโอภาพเคลื่อนไหว

ภาพเคลื่อนไหวนั้นพัฒนาอยู่เสมอ การจับการเคลื่อนไหวและการโรโตสโคป (ซึ่งนักสร้างลากเส้นตามฟุตเทจคนแสดงจริง) เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมนี้มานานหลายทศวรรษแล้ว นักสร้างภาพเคลื่อนไหวทุกวันนี้ก้าวไปอีกระดับด้วยซอฟต์แวร์ภาพเคลื่อนไหว และเปลี่ยนการเคลื่อนไหวของนักแสดงให้กลายเป็นตัวละครที่เคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ ระหว่างที่นักแสดงเคลื่อนไหวและพูด ตัวละครก็ทำเช่นเดียวกัน โดยสะท้อนการแสดงราวกับหุ่นกระบอก คู่มือนี้จะอธิบายวิธีเปลี่ยนการแสดงจริงเป็นภาพเคลื่อนไหวด้วย Adobe Character Animator ซึ่งจะเปลี่ยนการเคลื่อนไหวของมนุษย์เป็นการเคลื่อนไหวของตัวละคร

ไม่ว่าจะใช้เครื่องมือประเภทใด คุณจะต้องมีระเบียบอยู่เสมอ "ตั้งชื่อเลเยอร์ของคุณ" Snow แนะนำ "มือซ้ายของคุณควรมีชื่อว่ามือซ้าย เป็นต้น" เมื่อคุณสร้างภาพเคลื่อนไหวเบื้องต้นเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาวางองค์ประกอบต่างๆ เช่น การจัดแสง พื้นผิว และรายละเอียดภาพอื่นๆ ทำให้ทุกอย่างดูดีที่สุดเมื่อคุณเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย

การตัดต่อวิดีโอ กราฟิกเคลื่อนไหว และขั้นตอนหลังการถ่ายทำ

เมื่อภาพเคลื่อนไหวของคุณพร้อมแล้ว ให้ใส่กราฟิกบนจอ, Lower Third และเอฟเฟกต์วิดีโออื่นๆ ด้วย After Effects จากนั้นรวมองค์ประกอบทั้งหมดเข้าด้วยกัน เช่น ใส่เอฟเฟกต์เสียงหรือแทร็กเพลง ใน Adobe Premiere Pro ท้ายที่สุด คุณควรตรวจสอบว่าแทร็กเสียงผ่านการมิกซ์อย่างเหมาะสมและแอสเซทเสียงทั้งหมดช่วยเสริมและเข้ากับแอสเซทภาพหรือไม่

บอกเล่าเรื่องราวของคุณด้วยภาพเคลื่อนไหว

ภาพเคลื่อนไหวเป็นการผสมผสานระหว่างงานในสาขาต่างๆ มากมาย ตั้งแต่การออกแบบ การพากย์เสียง ไปจนถึงการแก้ไขเสียง วิดีโอคุณภาพสูงเป็นผลงานจากความร่วมมือของทีมนักสร้างสรรค์มืออาชีพจำนวนมาก ทุกคนมีความเชี่ยวชาญในงานของตัวเองและต่างก็มุ่งสู่เป้าหมายเดียวกันในภาพรวม การสร้างวิดีโอภาพเคลื่อนไหวอาจเป็นกระบวนการที่ยาวนาน แต่ผลที่ได้ก็คุ้มค่า และเป็นสื่อที่เชื่อมต่อกับผู้ชมในลักษณะที่สื่ออื่นๆ เพียงไม่กี่อย่างเท่านั้นสามารถทำได้