https://main--cc--adobecom.hlx.page/cc-shared/fragments/merch/products/firefly/sticky-banner/explore-firefly

#F5F5F5

Generative AI ได้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับไอเดียและจินตนาการของผู้คนทั้งโลกในช่วงปีที่ผ่านมา ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อันทรงประสิทธิภาพประเภทนี้สามารถสร้างเนื้อหาใหม่ตามรูปแบบที่เรียนรู้จากข้อมูลเดิม โดยข้อมูลดังกล่าวจะแตกต่างกันไป แต่อาจเป็นภาพถ่าย เพลง งานเขียน และเนื้อหาประเภทอื่นๆ Generative AI สามารถสร้างสรรค์รูปภาพที่น่าอัศจรรย์ เขียนวรรณกรรมหรือโค้ด แม้แต่แต่งเพลงแร็ปที่ฟังดูเป็นเพลงของศิลปินจริงๆ ก็ทำได้เช่นกัน

อีกไม่นาน Generative AI ก็จะกลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิตเราเช่นเดียวกับสมาร์ทโฟน แต่ถึงอย่างนั้น Generative AI ก็ยังเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับใครหลายคน มาดูกันว่า Generative AI คืออะไร สิ่งใดที่ไม่ใช่ Generative AI และ Generative AI สามารถเปลี่ยนการใช้ชีวิตของเราทั้งที่ทำงานและที่บ้านได้อย่างไร

การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Generative AI

คำจำกัดความ Generative AI

highly detailed little bird on a cobble street with palm trees

ข้อความคำสั่ง: นกน้อยที่มีรายละเอียดสูงอยู่บนถนนกรวดที่มีต้นปาล์ม

AI เทียบกับ Generative AI

เหตุใด Generative AI จึงมีความอัจฉริยะมาก

three labradoodle puppies run on the grass

ข้อความคำสั่ง: ลูกสุนัขพันธุ์ลาบราดูเดิ้ลสามตัววิ่งเล่นบนผืนหญ้า

การนำ Generative AI มาประยุกต์ใช้

องค์กรกับ Generative AI

บุคคลทั่วไปกับ Generative AI

interior Design, a perspective of of a living room and a kitchen with an island, large windows with natural light, Light colors, vegetation, modern furniture, skylight, modern minimalistic design

ข้อความคำสั่ง: งานออกแบบภายใน, ทัศนียภาพห้องนั่งเล่นและห้องครัวที่มีไอส์แลนด์กลางครัว, หน้าต่างบานใหญ่ที่มีแสงธรรมชาติ, โทนสีอ่อน, พืชพรรณ, เฟอร์นิเจอร์สมัยใหม่, ช่องรับแสง, การออกแบบสไตล์มินิมอลสมัยใหม่

ประโยชน์และข้อได้เปรียบของ Generative AI

Generative AI สามารถทำความเข้าใจข้อมูลอันซับซ้อนในปริมาณมากได้เร็วกว่าที่มนุษย์สามารถทำได้ ซึ่งเป็นที่มาของข้อได้เปรียบหลักๆ 2 ข้อนี้ของ Generative AI

  1. ประสิทธิภาพมากขึ้น
  2. ประสิทธิผลดีขึ้น
    สมมติว่าคุณทำงานกับบริษัทที่จัดเก็บข้อมูลกรรมสิทธิ์ในรายงานที่เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร สเปรดชีต ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ และแม้กระทั่งแผนภูมิกราฟิก คุณสามารถใช้ประโยชน์จาก Generative AI เพื่อวิเคราะห์แหล่งข้อมูลดังกล่าวทั้งหมด หาจุดเชื่อมโยงระหว่างข้อมูลแต่ละอย่าง และตอบคำถามที่คุณสงสัยได้ AI ยังสามารถแชร์คำแนะนำตามการสังเคราะห์ข้อมูลได้อีกด้วย

    หลายวงการมีแนวโน้มที่จะมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพิ่มพูนยิ่งขึ้น หากคุณเป็นผู้จัดการด้านการตลาดของธุรกิจขนาดย่อม Generative AI จะช่วยให้คุณปรับขนาดโฆษณาออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วเพื่อให้ตรงกับข้อกำหนดการแสดงโฆษณาของหลายๆ พื้นที่ใช้งาน จากนั้นคุณสามารถใช้ Generative AI เพื่อรายงานประสิทธิภาพการทำงานของแอสเซท เพื่อระบุหาเทรนด์และโอกาสที่คุณนำมาเสริมสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดถัดไปได้

    ส่วนประโยชน์ข้อสำคัญที่อาจจะได้รับจาก Generative AI ประการที่สาม ได้แก่
  3. เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์
    แน่นอนว่าผู้คนนั้นมีความคิดสร้างสรรค์อันยอดเยี่ยม แต่แม้แต่ผู้ที่ปราดเปรื่องมากที่สุดก็อาจติดหล่มแห่งความซ้ำซากจำเจได้ ตัวอย่างเช่น นักออกแบบกราฟิกสามารถใช้ AI เป็นคู่หูในการระดมความคิดได้ เทคโนโลยีนี้สามารถผลิตไอเดียใหม่ๆ ให้อยู่ในแบบที่ต่างไปจากเดิม เสมือนกับกล้องคาไลโดสโคปที่ทำให้ภาพที่คุ้นเคยดูแปลกใหม่ ในกรณีเช่นนี้ AI จึงถือได้ว่าเป็นนักบินผู้ช่วยมากกว่าที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญเสมือนจริง

ข้อจำกัดและความท้าทายของ Generative AI

ศักยภาพของ Generative AI นั้นน่าตื่นตาตื่นใจจนแทบจะทำให้เรามองข้ามข้อจำกัดที่มีไปอย่างง่ายดาย ต่อไปนี้เป็นความท้าทายหลายประการที่ต้องก้าวข้ามผ่านไปให้ได้

AI ไม่ได้ถูกต้องแม่นยำเสมอไป

ตามที่เราได้กล่าวถึงไปแล้วในส่วน “การนำ Generative AI มาประยุกต์ใช้” เครื่องมือ Generative AI อย่าง ChatGPT นั้นไม่ได้ถูกต้องแม่นยำตามข้อเท็จจริงเสมอไป อาจมีบางครั้งที่ชุดข้อมูลและอัลกอริทึมที่ปรับแต่งมาอย่างดีนั้นช่วยลดความเสี่ยง แต่ในขณะเดียวกัน เราซึ่งเป็นมนุษย์ต้องไม่ปักใจเชื่อกับข้อมูลที่อ่านในทันที โปรดตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลด้วยการเปรียบเทียบกับแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้

อคติมีอยู่ทุกที่

การตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้นทำได้ค่อนข้างง่าย แต่การปิดกั้นอคติทางสังคม (เช่น อคติทางเพศ หรือเชื้อชาติ) จากผลลัพธ์ Generative AI นั้นทำได้ยากยิ่งกว่า แต่ก็เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำอยู่ดี เพื่อป้องกันไม่ให้อคติทางสังคมปรากฏในผลลัพธ์ Generative AI ผู้ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับ AI ต้องมองหาอคติให้เจอแล้วขจัดออกจากขั้นตอนการออกแบบ การพัฒนา ไปจนถึงการนำไปใช้งาน และต้องมุ่งมั่นควบคุมดูแลอย่างต่อเนื่อง

ในฐานะผู้ใช้ เราก็สามารถช่วยขจัดอคติให้หมดไปได้เช่นกัน ลองป้อนข้อความคำสั่งว่า “นักวิทยาศาสตร์สวมเสื้อกาวน์ถือหลอดทดลอง” ลงในเครื่องมือสร้างงานศิลปะด้วย AI แล้วดูว่าผลลัพธ์แสดงเฉพาะภาพบุคคลประเภทเดิมทุกครั้งที่คลิกปุ่ม “Generate” หรือไม่ คุณสามารถส่งข้อความไปยังผู้พัฒนาเครื่องมือสร้างดังกล่าวเพื่อแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับจุดบอดนั้นๆ ได้ จากนั้นปรับแต่งข้อความคำสั่งของคุณเพื่อผลิตผลลัพธ์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น

scientist in a lab coat holding a test tube

ข้อความคำสั่ง: นักวิทยาศาสตร์สวมเสื้อกาวน์ถือหลอดทดลอง

Generative AI อาจใช้พลังงานมาก

บริษัทต่างๆ ที่พัฒนาเครื่องมือ Generative AI ควรทราบถึงปริมาณพลังงานที่จำเป็นในปัจจุบันสำหรับการเทรนและบำรุงรักษาเครื่องมือเหล่านี้ด้วย แม้ว่าวงการจะเริ่มตอบสนองต่อความจำเป็นในการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์แล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ

ปัญหาอีกประการก็คือสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา

ครีเอเตอร์ระดับมืออาชีพนั้นมีสิทธิ์โดยชอบธรรมที่จะกังวลเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ โดยปัจจุบันมีศาลหลายแห่งที่มุ่งหาแนวทางขจัดข้อกังวลเหล่านี้แล้ว Adobe เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของบริษัทที่มุ่งมั่นช่วยเหลือเหล่าครีเอเตอร์ นอกเหนือจากการพัฒนา Generative AI ของ Firefly อย่างมีความรับผิดชอบแล้ว Adobe ยังช่วยสร้างมาตรฐานวงการผ่าน Content Authenticity Initiative (CAI) และกำลังพัฒนาแท็กระบุข้อความ “Do Not Train” ที่เป็นสากล ซึ่งช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถควบคุมได้ว่าจะอนุญาตให้โมเดล AI เทรนโดยใช้ผลงานของตนหรือไม่

การผสานการทำงานของ Generative AI เข้ากับเวิร์กโฟลว์

เปิดรับอนาคตแห่งการออกแบบด้วย Generative AI ของ Adobe Firefly

a Japanese tea garden

ข้อความคำสั่ง: สวนชาญี่ปุ่น

{{questions-we-have-answers}}

Generative AI คืออะไรและมีหลักการทำงานอย่างไร
Generative AI เป็น AI ประเภทหนึ่งที่เน้นการสร้างหรือผลิตเนื้อหาใหม่ เช่น รูปภาพ เพลง หรือข้อความ โดยใช้โมเดลอัลกอริทึมและโมเดลแมชชีนเลิร์นนิง โดยทั่วไปแล้ว Generative AI ทำงานโดยใช้ข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อนอย่างข้อความคำสั่งเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่สอดคล้องกัน เช่น ข้อความ รูปภาพ เพลง หรือวิดีโอ
การนำ Generative AI มาประยุกต์ใช้จริงคืออะไร
การนำ Generative AI มาประยุกต์ใช้จริงนั้นมีหลากหลายรูปแบบ เช่น การเขียนโค้ดคอมพิวเตอร์ การสร้างสรรค์รูปภาพและวิดีโอ การสรุปรายงาน การวิเคราะห์ข้อมูลยอดขาย และการให้บริการลูกค้า
Generative AI ต่างจาก AI ประเภทอื่นอย่างไร
หากพูดอย่างกว้างๆ ปัญญาประดิษฐ์คือเครื่องจักรที่เลียนแบบความฉลาดของมนุษย์เพื่อทำงานต่างๆ Generative AI เน้นการสร้างหรือผลิตเนื้อหาใหม่ เช่น รูปภาพ เพลง หรือข้อความ โดยใช้โมเดลอัลกอริทึมและโมเดลแมชชีนเลิร์นนิง โดยทั่วไปแล้ว Generative AI ทำงานโดยใช้ข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อนเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่สอดคล้องกัน
ประโยชน์และข้อจำกัดของ Generative AI มีอะไรบ้าง
ประโยชน์หลักที่อาจจะได้รับจากปัญญาประดิษฐ์ประกอบด้วยประสิทธิผลดีขึ้น ประสิทธิภาพมากขึ้น และความคิดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้น ส่วนข้อจำกัดประกอบด้วยข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแม่นยำ การส่งเสริมอคติ การละเมิดลิขสิทธิ์ และการใช้พลังงาน
ธุรกิจและบุคคลทั่วไปจะผสานการทำงาน Generative AI เข้ากับกระบวนการทำงานของตนได้อย่างไร
ธุรกิจและบุคคลทั่วไปสามารถมองหาด้านต่างๆ ในเวิร์กโฟลว์ของตนที่อาจได้รับประโยชน์จากประสิทธิผล ประสิทธิภาพ หรือความคิดสร้างสรรค์เพิ่มเติม ธุรกิจต่างๆ ที่ใช้ Generative AI ควรดูผลลัพธ์ที่สร้างขึ้นเพื่อตรวจสอบความถูกต้องแม่นยำ อคติ และการละเมิดลิขสิทธิ์ ควบคู่ไปกับเปิดโอกาสให้พนักงานเสริมสร้างการออกแบบแนวคิดและกลยุทธ์ ส่วนบุคคลทั่วไปสามารถใช้เครื่องมือ Generative AI เพื่อการทำงานและความบันเทิงได้ พร้อมทั้งระมัดระวังเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองด้วย

https://main--cc--adobecom.hlx.page/cc-shared/fragments/products/firefly/aside-dream-bigger-with-firefly

{{you-may-also-like}}

ศิลปะจาก AI สำหรับผู้พัฒนาเกม

ดูข้อมูลเพิ่มเติม

Generative AI พลิกโฉมงานสร้างสรรค์ได้อย่างไร

ดูข้อมูลเพิ่มเติม

ไอเดียข้อความคำสั่งสร้างสรรค์งานศิลปะจาก AI

ดูข้อมูลเพิ่มเติม

ความแตกต่างของ Firefly เมื่อเทียบกับ Stable Diffusion

ดูข้อมูลเพิ่มเติม