กระบวนจินตภาพคอมพิวเตอร์ (CGI) ในวงการภาพเคลื่อนไหว 3 มิติคืออะไร

กระบวนจินตภาพคอมพิวเตอร์นั้นมีอยู่ทุกที่ ตั้งแต่ในรายการทีวีและภาพยนตร์ไปจนถึงวิดีโอเกมและความเป็นจริงเสมือน หากคุณกำลังสนใจเรื่องของการผลิตสื่อและภาพเคลื่อนไหว คุณก็ควรเข้าใจว่ากระบวนจินตภาพคอมพิวเตอร์ (CGI) ทำให้ภาพเคลื่อนไหว 3 มิติมีคุณภาพสูงได้อย่างไร
ในคู่มือนี้ เราจะอธิบายอย่างครอบคลุมถึงพื้นฐานของ CGI และความแตกต่างเมื่อเทียบกับภาพเคลื่อนไหวแบบดั้งเดิม

การทำความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนจินตภาพคอมพิวเตอร์

CGI ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างกราฟิกสามมิติให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การทำแอนิเมชันแบบดั้งเดิมจำเป็นต้องวาดภาพของตัวละครและฉากแบบเฟรมต่อเฟรมอย่างประณีตบรรจง ซึ่งใช้เวลาและแรงในการลงมือทำด้วยตนเองเป็นอย่างมาก CGI ยังคงจำเป็นต้องใช้เวลาและความเชี่ยวชาญ แต่คอมพิวเตอร์จะเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระหนักให้กับทีมแอนิเมชันได้มาก สื่อมีการพัฒนาขึ้น CGI ก็เช่นกัน พวกเราส่วนใหญ่มักคุ้นเคยกับ CGI จากภาพยนตร์ Pixar และรายการทีวี แต่ CGI นั้นมีอยู่ในวงการอื่นๆ มากมายนอกเหนือจากสื่อบันเทิง เทคโนโลยีการแสดงภาพนี้มีการใช้งานในด้านสถาปัตยกรรม วิศวกรรม และแม้กระทั่งด้านการแพทย์

เปรียบเทียบ CGI กับภาพเคลื่อนไหวแบบดั้งเดิม

CGI คือก้าวต่อไปที่เป็นธรรมชาติของภาพเคลื่อนไหวแบบดั้งเดิม แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเทคนิคใดจะดีกว่าอีกเทคนิคหนึ่งเสมอไป

CGI เหมาะสมที่สุดสำหรับ

  • Adobe After Effects
  • KeyShot
  • Cinema 4D

ครั้งหนึ่งการทำแอนิเมชันแบบดั้งเดิมเคยสื่อถึงการแสดงออกทางศิลปะและเสน่ห์ทางสไตล์ได้ดีกว่า แต่ปัจจุบันนี้สตูดิโอ CGI กำลังผลักดันขีดจำกัดของความเป็นไปได้เมื่อใช้ CGI

หากคุณกำลังชั่งใจเลือกระหว่าง CGI กับภาพเคลื่อนไหว ก็สามารถรวมทั้งสองเทคนิคเข้าด้วยกันได้ Into the Spider-Verse ของ Sony และ Arcane ซึ่งเป็นผลงานของ Fortiche ได้รวมภาพเคลื่อนไหวแบบวาดด้วยมือกับเอฟเฟกต์ของ CGI เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และผลักดันขีดจำกัดของสิ่งที่เป็นไปได้เมื่อใช้ CGI

กระบวนการ CGI แบบเข้าใจง่าย

CGI จะใช้คอมพิวเตอร์ในการเร่งกระบวนการออกแบบ แต่ขั้นตอนก็ไม่ได้ง่ายเหมือนแค่กดปุ่ม กระบวนการสร้างสรรค์ CGI ประกอบด้วย:

  1. การวางคอนเซ็ปต์และขั้นตอนก่อนการถ่ายทำ ทีมออกแบบทำงานกับสตอรี่บอร์ด การออกแบบตัวละคร และการสร้างเค้าโครงฉาก
  2. การสร้างโมเดล 3 มิติ ในขั้นนี้ นักออกแบบจะสร้างวัตถุ ตัวละคร และสภาพแวดล้อม 3 มิติแบบดิจิทัล
  3. การสร้างพื้นผิว พื้นผิวจะปรับใช้รายละเอียดของสีและความสมจริงกับโมเดล 3 มิติ
  4. การใส่กระดูก การใส่กระดูกจะเพิ่มโครงกระดูกแบบดิจิทัลเพื่อให้มีความเคลื่อนไหวและความยืดหยุ่น
  5. ภาพเคลื่อนไหว นักออกแบบใช้รากฐานที่กำหนดไว้เพื่อทำให้โมเดล 3 มิติมีความสมจริงและเพิ่มความเคลื่อนไหว
  6. การจัดแสง การจัดแสงแบบเสมือนช่วยสร้างบรรยากาศและทำให้ฉากดูมีความสมจริงยิ่งขึ้น
  7. การเรนเดอร์ กระบวนการนี้แปลงฉาก 3 มิติให้เป็นภาพเคลื่อนไหวหรือรูปภาพ 2 มิติ
  8. กระบวนการหลังการถ่ายทำ นักออกแบบจะใส่เอฟเฟกต์ การตัดต่อ และการตกแต่งในขั้นสุดท้ายเพื่อทำให้การผลิตฉากพร้อมใช้งาน

ความมหัศจรรย์ของภาพเคลื่อนไหว 3 มิติแบบ CGI

การเติบโตของภาพยนตร์ที่น่าจดจำอย่าง Toy Story, Frozen และ Moana แสดงให้เห็นว่าภาพเคลื่อนไหว 3 มิติแบบ CGI สามารถชวนให้เราหลงใหลได้มากเพียงใด กระบวนการทำภาพเคลื่อนไหวนี้นอกจากจะมีความดึงดูดสายตาแล้ว ยังช่วยพัฒนาการเล่าเรื่องและการมีส่วนร่วมของผู้ชมอีกด้วย โดยการสร้างตัวละครที่เข้าถึงได้และฉากที่สมจริง

CGI อาจดูเหมือนเวทมนตร์สำหรับผู้ชมทั่วไป แต่เทคนิคนี้ต้องใช้ทักษะทางเทคนิคในการทำ ทักษะทางเทคนิคและเครื่องมือซอฟต์แวร์อย่าง Substance 3D, Blender, Maya และ Adobe After Effects คือรากฐานของภาพเคลื่อนไหว 3 มิติแบบ CGI

อนาคตของ CGI และต่อไปจากนี้

CGI ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในอุตสาหกรรมการบันเทิง แต่นั่นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น CGI มีศักยภาพที่ไม่มีที่สิ้นสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ผู้บริโภคทั่วไปสามารถเข้าถึงความเป็นจริงเสมือน (VR) และความเป็นจริงเสริม (AR) ได้ง่ายขึ้น

สถาปนิกใช้ CGI เพื่อจำลองงานออกแบบ ในขณะที่ผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์นำ CGI ไปใช้พัฒนาการสแกนเพื่อช่วยชีวิตคน และนักการศึกษาใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อให้ได้ประสบการณ์การเรียนรู้ที่เจาะลึก CGI ยังมีเรื่องที่ต้องเรียนรู้อีกมากมาย ดังนั้นเราจึงควรเจาะลึกเทคโนโลยีนี้ให้มากขึ้นผ่านทางหลักสูตร บทช่วยสอน และแหล่งข้อมูลออนไลน์

การปลดปล่อยศักยภาพ 3 มิติ: Adobe Substance 3D ในฐานะพาร์ทเนอร์สร้างสรรค์ของคุณ

ภาพเคลื่อนไหว 3 มิติแบบ CGI คือรากฐานของสื่อสมัยใหม่ แม้จะดูเหมือนการร่ายมนตร์ที่ไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ หากมองแบบผิวเผิน แต่เทคนิคนี้ต้องใช้ทั้งวิสัยทัศน์ทางศิลปะและทักษะทางเทคนิค

เมื่อคุณมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ CGI แล้ว คุณก็พร้อมที่จะได้ซึมซับบรรยากาศ หรืออาจถึงขั้นได้มีส่วนร่วมสร้างสรรค์ในโลกของ CGI ที่ขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ

คำถามที่พบบ่อย

กระบวนจินตภาพคอมพิวเตอร์คืออะไร

กระบวนจินตภาพคอมพิวเตอร์ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อสร้างโมเดลที่สมจริงสำหรับงานศิลปะ วิดีโอเกม ภาพยนตร์ รายการทีวี และการจำลองภาพแบบดิจิทัล

CGI และภาพเคลื่อนไหว 3 มิติเหมือนกันไหม

ไม่ CGI คือคำนิยามโดยกว้างที่หมายถึงงานภาพทั้งหมดที่คอมพิวเตอร์สร้างขึ้น ส่วนภาพเคลื่อนไหว 3 มิติจะมีความหมายเจาะจงถึงวัตถุที่เคลื่อนไหวในพื้นที่สามมิติ แต่การใช้งาน CGI จำนวนมากมีความเกี่ยวข้องกับภาพเคลื่อนไหว 3 มิติ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่จะนำทั้งสองอย่างนี้มารวมกัน

การออกแบบ 3 มิติและ CGI แตกต่างกันอย่างไร

การออกแบบ 3 มิติและ CGI มีความแตกต่างมากมายดังนี้

  • การใช้งาน การออกแบบ 3 มิติมีการใช้งานทางสถาปัตยกรรมและการออกแบบผลิตภัณฑ์ ในขณะที่ CGI มีความนิยมในวงการภาพยนตร์และวิดีโอเกมมากกว่า
  • เครื่องมือ การออกแบบ 3 มิติใช้เครื่องมืออย่าง AutoCAD และ Rhino ในขณะที่ CGI ใช้เครื่องมืออย่าง Blender, Maya และ Adobe After Effects
  • เป้าหมาย เป้าหมายของการออกแบบ 3 มิติคือเพื่อสร้างโมเดลที่ใช้งานได้ ซึ่งมักใช้สำหรับวัตถุประสงค์ด้านการผลิต ในทางกลับกัน CGI ใช้สำหรับสร้างการจำลองที่สมจริง

การเรนเดอร์ 3 มิติและ CGI เหมือนกันไหม

ไม่ CGI คือคำนิยามโดยทั่วไปที่หมายถึงรูปภาพใดก็ได้ที่มีการสร้างโดยคอมพิวเตอร์ ในทางกลับกัน การเรนเดอร์ 3 มิติคือขั้นตอนหนึ่งของกระบวนการสร้างภาพเคลื่อนไหว 3 มิติแบบ CGI ซึ่งคุณแปลงโมเดล 3 มิติให้เป็นรูปภาพ 3 มิติ

พร้อมสร้างกระบวนการ CGI แล้วใช่ไหม ลองใช้ Substance 3D Modeler เพื่อปั้นหุ่น 3 มิติด้วยดินดิจิทัล สร้างวัสดุและพื้นผิวที่เหมือนจริงใน Substance 3D Designer เพื่อสร้างโลกและประสบการณ์ที่สมจริง

https://main--cc--adobecom.hlx.page/cc-shared/fragments/products/substance3d/bottom-blade-cta-s3d-collection