จงเป็นพนักงานที่มีคุณภาพไม่ว่าคุณจะทำงานที่ใด

เมื่อก่อนผู้ใหญ่วัยทำงานจะทำงานเดิมเป็นเวลาหลายปี แต่ในปัจจุบันการที่พนักงานเปลี่ยนตำแหน่งงาน และแม้แต่เปลี่ยนจากอุตสาหกรรมหนึ่งไปอีกอุตสาหกรรมหนึ่งตลอดชีวิตการทำงานเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ตลาดงานมีการเปลี่ยนแปลง แรงงานกำลังมองหาโอกาสที่จะใช้ทักษะที่ถ่ายทอดได้ในตำแหน่งงานที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตนเอง

ความสำคัญของทักษะระดับมืออาชีพ

ไม่ว่าเหตุผลในการหางานใหม่ของคุณคืออะไร การมีทักษะที่หลากหลายจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จไม่ว่าจะอยู่ในอุตสาหกรรมใดก็ตาม แม้ว่าคุณจะเพียงต้องการทำงานปัจจุบันให้ดียิ่งขึ้น แต่การพัฒนาทักษะระดับมืออาชีพจะเพิ่มคุณค่าในฐานะพนักงานให้กับคุณ และคุณยังพร้อมจะปรับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนอาชีพได้ดีขึ้นเมื่อคุณพร้อมที่จะแสวงหาโอกาสใหม่ๆ

คุณอาจสงสัยว่าคุณควรมุ่งเน้นทักษะระดับมืออาชีพประเภทใด ทักษะที่คุณต้องการมากที่สุดไม่จำเป็นต้องเฉพาะเจาะจงสำหรับบทบาทงานหรืออุตสาหกรรมปัจจุบันของคุณเสมอไป

พิจารณาว่าคุณจำเป็นต้องพัฒนาทักษะวิชาชีพหรือทักษะทางสังคม ทักษะวิชาชีพโดยทั่วไปสามารถวัดผลได้อย่างชัดเจน ซึ่งทักษะนี้ประกอบด้วยความรู้ที่ตรงตามมาตรฐานและความชำนาญด้านเทคนิค คุณสามารถเรียนรู้ทักษะเหล่านี้ได้จากหลักสูตรฝึกอบรมแบบทางการ นอกจากนี้ยังสามารถเรียนรู้ได้ผ่านการฝึกฝนและการศึกษาอิสระ

ทักษะทางสังคมก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งทักษะนี้มักเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติเฉพาะตัวหรือวิธีการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนอื่น ทักษะทางสังคมจะดูมีความน่าเชื่อถือน้อยหากระบุอยู่ในเรซูเม่ โดยทักษะนี้ต้องแสดงออกในพฤติกรรมประจำวันและภาพจำที่ผู้อื่นมีต่อคุณ ทักษะทางสังคมอาจมีผลกระทบอย่างมากในการพัฒนาความสัมพันธ์และเครือข่ายทางวิชาชีพ

คุณอาจทราบดีอยู่แล้วว่าตนเองเป็น “คนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี” หรือไม่ เนื่องจากโลกการทำงานสร้างขึ้นจากผู้คน แม้แต่งานที่ใช้เทคนิคสูงหรืองานระยะไกล ดังนั้นการลงทุนเวลาและพลังงานของคุณเพื่อให้ได้ความรู้เชิงปฏิบัติในด้านนี้ด้วยจึงเป็นเรื่องที่ชาญฉลาด

ไม่ว่าคุณจะต้องการทำในสิ่งที่คุณทำอยู่ให้ดีขึ้นหรือเปลี่ยนทิศทางอาชีพใหม่ คุณก็อาจสงสัยว่าจะพัฒนาทักษะวิชาชีพได้อย่างไรในขณะที่คุณยุ่งวุ่นวายกับตารางงานประจำวัน คุณไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างพร้อมกัน เลือกสองหรือสามอย่างที่จะทำ แล้วสร้างความคุ้นเคยจนกลายเป็นกิจวัตร มองหาโปรเจกต์และโอกาสในการพัฒนาทางวิชาชีพเพื่อปลูกฝังทักษะที่มีความสำคัญสำหรับคุณ

A businessperson sits at a desk working on a desktop computer

ทักษะวิชาชีพระดับมืออาชีพช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในทุกๆ งาน

ทักษะวิชาชีพเป็นความสามารถที่วัดผลได้ซึ่งคุณได้รับมาจากการศึกษาและการฝึกอบรม เช่น ความชำนาญในการใช้ซอฟต์แวร์บางอย่างโดยเฉพาะ หรือความสามารถในการแก้ไขปัญหาด้านไอทีขั้นพื้นฐาน

เนื่องจากทักษะวิชาชีพหลายอย่างนั้นเป็นเรื่องทางเทคนิค ผู้หางานบางคนจึงคิดว่าเฉพาะผู้ที่ศึกษาวิชาบางวิชาในวิทยาลัยหรือเคยผ่านโปรแกรมการฝึกอบรมเท่านั้นที่จะสามารถพัฒนาทักษะดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม ปริญญาทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (STEM) และการฝึกอบรมด้านเทคนิคไม่ใช่วิธีเดียวที่จะพัฒนาทักษะวิชาชีพ ผู้ประกอบวิชาชีพสามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ด้วยตนเองในเวลาว่างด้วยแหล่งข้อมูลออนไลน์ที่ยอดเยี่ยมได้เท่าที่ต้องการ ต่อไปนี้คือตัวอย่างทักษะวิชาชีพบางส่วนที่ควรเริ่มพัฒนาหรือดำเนินการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ความรอบรู้ด้านดิจิทัล

ความรอบรู้ด้านดิจิทัลครอบคลุมถึงความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง การทราบถึงวิธีการใช้คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์มือถือเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับเกือบทุกงาน การทราบถึงวิธีการพิมพ์ ใช้เว็บเบราว์เซอร์ รวมไปถึงการจัดเก็บและถ่ายโอนข้อมูลล้วนเป็นองค์ประกอบขอความรอบรู้ด้านดิจิทัลทั้งสิ้น

ในทุกวันนี้พนักงานจำนวนมากเริ่มพัฒนาทักษะความรอบรู้ด้านดิจิทัลตั้งแต่อายุยังน้อย อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และอาจทำให้เราคิดว่าความรอบรู้ด้านดิจิทัลจะยังคงเหมือนเดิมเช่นที่เคยเป็นมา ตัวอย่างเช่น พนักงานที่โตมากับแผ่นฟลอปปีดิสก์อาจมีปัญหาเล็กน้อยเมื่อต้องปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมการทำงานบนระบบคลาวด์ การติดตามเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ๆ จะช่วยให้ทุกคนก้าวตามทันการสื่อสารของเทคโนโลยีได้ทันท่วงที

เทคโนโลยีการสื่อสาร

การสื่อสารและการทำงานร่วมกันเป็นสิ่งที่สำคัญในทุกๆ งาน การทราบถึงวิธีใช้อีเมล การรับส่งข้อความแบบทันที วิดีโอแชท และบันทึกย่อในเอกสารระบบคลาวด์จะเป็นประโยชน์ต่อคุณในเกือบทุกๆ ที่ เนื่องจากมีคนทำงานทางไกลมากขึ้นเรื่อยๆ การทราบถึงวิธีใช้เทคโนโลยีการสื่อสารและการทำความคุ้นเคยใจจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ทักษะการวิเคราะห์และการวิจัย

คุณอาจคิดไปเองว่าคุณมีทักษะนี้เพียงเพราะคุณรู้วิธีการค้นคว้าผ่านอินเทอร์เน็ตพื้นฐาน แต่คุณจำเป็นต้องเข้าใจเทคนิคเฉพาะและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดเพื่อพัฒนาทักษะการวิเคราะห์และการวิจัยอย่างเป็นรูปธรรม

เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการต่างๆ สำหรับการเก็บข้อมูล การเขียนรายงานและการนำเสนอ และทำความเข้าใจข้อมูลโดยขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมของคุณ เรียนรู้เกี่ยวกับแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดในสาขางานต่างๆ และเรียนรู้ว่าผู้เขียน ผู้ชม จุดประสงค์ เวลา และรูปแบบของข้อความอาจส่งผลต่อความถูกต้องหรือความเกี่ยวข้องกับคำถามของคุณอย่างไร การตั้งคำถามวิจัย การเก็บข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสร้างมุมมองใหม่และมีประโยชน์เกี่ยวกับหัวข้อเป็นแนวทางที่ดีในการฝึกฝนและแสดงให้เห็นทักษะนี้

Two photos: A businessperson works at a desk with a cup of coffee and headphones; A businessperson engages in a video conference on their laptop

ซอฟท์แวร์และแอปพลิเคชันทั่วไป

การที่สามารถทำงานโดยใช้ระบบปฏิบัติการที่แตกต่างกัน (Mac และ PC) และซอฟต์แวร์จะช่วยให้ผู้คนสามารถข้ามจากตำแหน่งงานหนึ่งไปอีกตำแหน่งงานหนึ่งได้โดยไม่ต้องลำบากมากนักในการเรียนรู้งานใหม่

และหากคุณมีทักษะด้านซอฟต์แวร์ที่ได้รับการพัฒนามาอย่างดี ก็จะสามารถเรียนรู้การทำงานในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ ตั้งแต่การโฆษณา ไอที ไปจนถึงการบัญชี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบทบาทและระดับความเชี่ยวชาญของคุณ ชุดทักษะซอฟต์แวร์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับเรซูเม่ของคุณ เนื่องจากเป็นการเปิดโอกาสในการเติบโตและการพัฒนา โดยยังไม่รวมถึงค่าตอบแทนเพิ่มเติมด้วย การปรับตัวให้คุ้นชินกับซอฟต์แวร์ใหม่อาจต้องใช้เวลา แต่คุณสามารถช่วยให้การเรียนรู้นั้นไม่ลำบากจนเกินไปนักได้โดยการทำความคุ้นเคยกับทักษะพื้นฐาน เช่น

การประมวลผลคำ

เอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษรเป็นวิธีพื้นฐานที่สุดในการแสดงไอเดียของคุณ Microsoft Word ถือเป็นซอฟต์แวร์ประมวลผลคำมาตรฐาน แต่บริษัทอื่นอาจใช้ Google เอกสารหรือแอปพลิเคชันอื่นโดยสิ้นเชิงก็เป็นไปได้เช่นกัน เป็นความคิดที่ดีที่จะเรียนรู้วิธีการใช้งานมากกว่าหนึ่งโปรแกรม

การนำเสนอ

การนำเสนอที่ดีจะดึงดูดความสนใจของผู้ที่ได้รับชมและถ่ายทอดสิ่งที่คุณอยากจะสื่อออกไปให้เห็นในรูปแบบภาพ คุณไม่จำเป็นที่จะต้องทำให้สวยหรู แต่การรู้วิธีนำเสนองานของคุณอย่างมีประสิทธิภาพผ่าน PowerPoint หรือ Keynote จะทำให้ผู้อื่นเข้าใจสิ่งที่คุณต้องการจะสื่อได้ดีกว่าการแชร์เอกสารข้อความบนหน้าจอ

สเปรดชีต

สเปรดชีตจะช่วยเปลี่ยนข้อมูลที่ยุ่งเหยิงให้เป็นข้อมูลที่ชัดเจน ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับซอฟต์แวร์สเปรดชีต เช่น Excel หรือ Google ชีตจะช่วยให้คุณมีแต้มต่อในที่ทำงาน แม้ว่าคุณจะไม่ได้ใช้งานโปรแกรมเหล่านั้นในการคำนวณตัวเลขก็ตาม

การแก้ไขสื่อ

ไฟล์เสียง วิดีโอ และรูปภาพช่วยเพิ่มรายละเอียดและข้อมูลเชิงลึกในการนำเสนอและสิ่งพิมพ์ ความคุ้นเคยขั้นพื้นฐานกับซอฟต์แวร์แก้ไขรูปภาพทั่วไป เช่น Photoshop และไฟล์ต่างๆ อย่างเช่นรูปภาพ JPG และ PNG จะช่วยให้คุณวางแผนได้อย่างเป็นระบบทุกครั้งเมื่อต้องจัดการกับแอสเซทต่างๆ

การสื่อสาร

ซอฟท์แวร์การสื่อสารจะช่วยให้คุณแสดงความเป็นตัวของตัวเองกับเพื่อนร่วมงาน ได้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใด คุณควรจะสามารถสื่อสารไอเดีย ความคิด และความเห็นของคุณด้วยปากเปล่าหรือผ่านข้อความด้วยเครื่องมือ เช่น Slack, Skype, และ Zoom ได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อทำงานร่วมกันกับผู้อื่นในโปรเจ็กต์หรือชิ้นงานหนึ่งๆ

การจัดการเอกสาร

การจัดการเอกสารช่วยให้คุณสามารถจัดเก็บและแชร์ข้อมูลกับพนักงานคนอื่นที่อาจทำงานในโปรเจ็กต์เดียวกัน หรือกับผู้ใช้ปลายทางที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณ ซอฟต์แวร์ เช่น Adobe Acrobat สามารถช่วยให้คุณและทีมเชื่อมต่อกันผ่านอุปกรณ์เกือบทุกชนิด และสมาชิกในทีมสามารถแก้ไข ป้องกันด้วยรหัสผ่าน และเซ็นชื่อในไฟล์ได้เมื่อจำเป็น คุณยังสามารถดูและเข้าถึงไฟล์ได้อย่างสะดวกบนโทรศัพท์ขณะกำลังเดินทางโดยใช้แอปมือถือฟรี Acrobat Reader

การแก้ไขปัญหาไอทีเบื้องต้น

เมื่อถึงจุดหนึ่ง คุณอาจประสบปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ การทราบถึงวิธีแก้ไขปัญหาทั่วไปและการใช้เครื่องมือไอทีขั้นพื้นฐานจะช่วยให้คุณไม่ต้องหงุดหงิดใจ และแสดงให้เห็นว่าคุณแก้ปัญหาได้อย่างไม่ขาดตอน การที่สามารถจัดการกับอุปกรณ์ที่ขัดข้องจะช่วยให้คุณไม่จำเป็นต้องโทรหาช่างเทคนิคทุกครั้งที่เกิดข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ เคล็ดลับ: หากมีบางอย่างผิดพลาด ลองรีสตาร์ทอุปกรณ์ของคุณใหม่ การรีสตาร์ทเพียงอย่างเดียวก็ช่วยแก้ปัญหาด้านไอทีได้แทบจะทั้งหมด

A businessperson sits at a desk working on a desktop computer

ทักษะทางสังคมช่วยขับเคลื่อนความสำเร็จในทุกตำแหน่ง

ทักษะทางสังคมเป็นทักษะที่ช่วยให้คุณโต้ตอบกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทักษะด้านการสื่อสาร การทำงานเป็นทีม การปรับตัว และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลช่วยให้คุณทำงานร่วมกันและเชื่อมต่อกับผู้คนได้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในอุตสาหกรรมใดหรือมีปัญหาอะไรก็ตามที่คุณพยายามแก้ไข

การสื่อสาร

ตามที่ Brie Weiler Reynolds ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาอาชีพและโค้ชอาชีพที่ FlexJobs กล่าวไว้ว่า “การสื่อสารเป็นรากฐานของการทำงานทางไกลที่ดีอย่างแท้จริง” การสื่อสารทางออนไลน์อาจทำได้ยากกว่าการเชื่อมต่อกันแบบซึ่งหน้า แต่ก็เป็นทักษะที่จำเป็น

สำหรับนายจ้างหลายๆ ราย ทักษะการสื่อสารที่ดีเป็นเรื่องแรกๆ ที่จะให้ความสำคัญ เมื่อไม่ได้พบปะกับเพื่อนร่วมงานแบบซึ่งหน้า คุณจะถ่ายทอดรูปแบบการสื่อสารของคุณอย่างไร คุณจะทำอย่างไรเมื่อต้องใช้งานอีเมล โทรศัพท์ หรือการประชุมทางออนไลน์ หากคุณสามารถแสดงให้เห็นถึงทักษะการสื่อสารทางออนไลน์และแบบพบปะกันซึ่งหน้าได้ โอกาสที่จะมีนายจ้างจ้างงานก็จะเพิ่มขึ้น

การทำงานเป็นทีม

การทราบถึงวิธีหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่ไม่จำเป็น แก้ไขเมื่อมีข้อพิพาทเกิดขึ้น และก้าวไปข้างหน้าอย่างเป็นมิตรเป็นทักษะที่มีค่า

เนื่องจากสมาชิกในทีมอาจมีบุคลิก ลักษณะการทำงาน ภูมิหลัง และความคิดเห็นที่หลากหลาย หากคุณทำงานเข้ากับผู้อื่นที่แตกต่างกับคุณได้ไม่ดี อาจจะทำให้โปรเจ็กต์เกิดการหยุดชะงักไม่เป็นไปตามแผนได้ อย่างไรก็ตาม หากคุณสามารถเห็นคุณค่าในตัวผู้อื่น เข้าใจว่าแต่ละคนทำอะไรให้กับโปรเจ็กต์ และรู้ว่าหน้าที่ของทุกคนมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร คุณจะสามารถหลีกเลี่ยงความคับข้องใจและสนับสนุนความสำเร็จของทุกคนได้

การบริหารจัดการเวลา

ทักษะการบริหารจัดการเวลาช่วยให้คุณใช้เวลาทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทำงานทันตามกำหนดเวลา และเป็นไปตามที่วางแผนไว้ อีกทั้งยังสามารถช่วยให้คุณสร้างสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและการใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี

ความยืดหยุ่น

การเปลี่ยนแปลงของโปรเจ็กต์นั้นมักเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เลี่ยงไม่ได้เกิดขึ้น คุณจะต้องพร้อมรับมือสำหรับการเปลี่ยนแปลงนั้น การที่สามารถเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาใหม่ได้ก็จะช่วยลดทอนความเครียดได้เช่นกัน หากคุณมั่นใจในทักษะการรับมือการเปลี่ยนแปลงของคุณ คุณจะรู้สึกภูมิใจในตัวเอง งานของคุณ และผลงานของคุณที่มีต่อทีม

ให้ความสำคัญกับรายละเอียด

แม้ว่าอาจจะเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่ซ้ำซากจำเจที่ผู้คนใส่ไว้ในเรซูเม่ของตน แต่เมื่อคุณสามารถแสดงทักษะนี้ได้จริงๆ ทักษะนี้จะมีคุณค่าอย่างมาก ไม่ว่าคุณจะทำงานด้านการเงิน การตลาด ทรัพยากรบุคคล กฎหมาย การบริการลูกค้า หรือด้านอื่นๆ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อาจมีผลกระทบยิ่งใหญ่ต่อลูกค้า ผู้ใช้บริการและเพื่อนร่วมงาน

หากต้องการพัฒนาทักษะนี้ ให้พยายามปลูกฝังทัศนคติการมีมโนธรรมและความเอาใจใส่ต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากงานที่คุณทำ ในเชิงปฏิบัติยิ่งขึ้นคือให้ใช้เวลาคิดอย่างมีวิจารณญาณและทำงานอย่างเป็นระบบ ทัศนคติการมีความรับผิดชอบและการปฏิบัติตัวอย่างระมัดระวังจะช่วยคุณพัฒนานิสัยการให้ความสำคัญกับรายละเอียดให้เป็นทักษะที่แท้จริงและสามารถสาธิตให้เห็นได้

A female business professional develops the professional skill of public speaking by presenting at an event.

การพูดในที่สาธารณะ

ไม่ว่าคุณจะต้องการพูดอย่างเป็นทางการหรือไม่ การพูดในที่สาธารณะเป็นทักษะที่มีคุณค่าสำหรับโอกาสที่หลากหลายเมื่อคุณจำเป็นต้องแบ่งปันข้อเสนอหรือผลลัพธ์ของโครงการ และเป็นผู้นำหรือมีส่วนร่วมในการประชุม เมื่ออยู่ในขั้นตัดสินใจ ทักษะการพูดในที่สาธารณะจะช่วยให้คุณมีอำนาจชักจูง

การพูดในที่สาธารณะนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายแม้จะเป็นทักษะทางสังคม โดยจะเกี่ยวข้องกับการเลือกใช้น้ำเสียงและภาษากายขณะคิดอย่างมีชั้นเชิงและมีวิจารณญาณเกี่ยวกับสารที่ต้องการสื่อหรือคำถามที่จะถาม

หากต้องการพัฒนาทักษะนี้ ให้ค้นคว้าและฝึกฝนภาษากายที่แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจ ฝึกพูดด้วยระดับเสียงที่เหมาะสม โดยออกเสียงให้ชัดเจนและใช้จังหวะที่หลากหลายและแสดงถึงความตั้งใจ คุณจะพบแหล่งข้อมูลมากมายเกี่ยวกับหัวข้อนี้ เช่นจากในหนังสือและวิดีโอ YouTube

เมื่อใดก็ตามที่คุณมีเวลาเตรียมตัวล่วงหน้า ให้ใช้โอกาสนี้ในการฝึกซ้อมและจับเวลาตนเอง เขียนโน้ตที่สั้น จำง่าย และเข้าใจง่าย คำนึงถึงเป้าหมายสุดท้ายและคัดสรรรายละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่ามาสนับสนุนเป้าหมายนั้น อย่าลืมเอาใจใส่ผู้ชม หากดูเหมือนว่ามีหลายสิ่งที่ต้องทำในเวลาเดียวกัน นั่นก็เพราะว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ วิธีการเรียนรู้ที่ดีที่สุดคือการฝึกฝน

ความมั่นใจในตัวเอง

ความมั่นใจในตนเองนั้นวัดได้ยาก แต่จะเป็นสิ่งที่ผู้อื่นรู้สึกได้ และจะช่วยให้การดำเนินงานทั้งหมดของคุณประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น คุณไม่จำเป็นต้องมั่นใจในตัวเองแบบเกินร้อยในทุกๆ ด้านเพื่อฝึกฝนทักษะนี้อย่างมีประสิทธิภาพ

การพัฒนาทักษะที่เหลือในรายการนี้จะช่วยให้คุณมีความมั่นใจในตนเองมากขึ้น แต่ก็ยังมีวิธีอื่นในการพัฒนาอีก ทำสิ่งที่ไม่คุ้นชินเพื่อทำโปรเจกต์ในรูปแบบใหม่ และใช้เวลาในการไตร่ตรองหลังจากทำสิ่งยากๆ สำเร็จ โดยให้สังเกตสิ่งที่ทำได้ดีและทักษะที่ได้รับ ขอให้เพื่อนและเพื่อนร่วมงานที่เชื่อถือได้ให้ข้อเสนอแนะเชิงบวกและเฉพาะเจาะจงแก่คุณ

แต่งกายในรูปแบบที่คุณรู้สึกมั่นใจ ใช้ภาษาเชิงบวกเกี่ยวกับตนเองและผู้อื่น แม้ว่าการเล่นมุกแบบกดตัวเองเล็กน้อยจะช่วยให้ไม่ดูเป็นคนเย่อหยิ่ง แต่การแสดงออกถึงความมั่นใจในความคิดและความสามารถของตัวเองก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ ความมั่นใจไม่ได้หมายถึงการแสดงออกว่าตัวเองดีกว่าผู้อื่น การแสดงความอ่อนโยนและเห็นอกเห็นใจผู้อื่นจะสะท้อนความรู้สึกที่มีต่อตัวเอง

เรียนรู้ความแตกต่างระหว่างกรอบความคิดแบบยึดติดและกรอบความคิดแบบเติบโต หากมีกรอบความคิดแบบยึดติด คุณอาจรู้สึกว่าความสามารถและความมั่นใจของคุณขึ้นอยู่กับปัจจัยที่คุณไม่สามารถควบคุมได้ โดยคุณจะเก่งในบางสิ่งบางอย่างหรือไม่เก่งไปเลย หากมีกรอบความคิดแบบเติบโต คุณจะเข้าใจว่าด้วยความพยายามและความอยากรู้อยากเห็นเพียงเล็กน้อย คุณจะสามารถได้รับทักษะใหม่ๆ และเรียนรู้อะไรก็ได้ การฝึกให้มีกรอบความคิดแบบเติบโตจึงจะช่วยให้คุณให้อภัยตัวเองเมื่อเกิดข้อผิดพลาด และมีความอดทนในการพยายามจนกว่าจะพัฒนาความมั่นใจภายในอย่างแท้จริงในบางด้าน

โอกาสในการปรับปรุงนั้นมีอยู่เสมอ ไม่ว่าความรู้และประสบการณ์ของคุณจะอยู่ในระดับใดก็ตาม ไม่มีใครที่สามารถทำได้ทุกสิ่ง แต่เกือบทุกคนมีศักยภาพที่จะใช้ประโยชน์จากทักษะของตนเอง หาตำแหน่งงานที่เหมาะกับตนเอง และทำงานประเภทที่ตนเองสนใจและพอใจ เมื่อคุณทราบถึงจุดแข็งและความสนใจของตัวเอง และเมื่อคุณพัฒนาจุดแข็งและสนใจว่าจะต้องทำอย่างไรจึงจะดียิ่งขึ้น คุณก็จะเติบโตขึ้นได้ทั้งในด้านวิชาชีพและด้านอื่นๆ

https://main--dc--adobecom.hlx.page/dc-shared/fragments/seo-articles/acrobat-color-blade