การสร้างตัวละคร 3 มิติและซอฟต์แวร์ออกแบบ

การสร้างโมเดลตัวละคร 3 มิติเป็นกระบวนการปั้นตัวละครเชิงปฏิบัติ กระบวนการนี้อาจแตกต่างกันอย่างมากโดยขึ้นอยู่กับเครื่องมือที่คุณเลือกใช้ หากคุณกำลังใช้เครื่องมือสร้างตัวละครโดยเฉพาะ ซอฟต์แวร์จะช่วยลดความซับซ้อนของกระบวนการลงได้มาก อย่างไรก็ตาม คุณอาจพบว่าคุณสามารถสร้างตัวละครได้จำกัด ในทางกลับกัน ซอฟต์แวร์การสร้างโมเดลและการปั้น 3 มิติที่ทรงพลังที่สุดจะไม่มีการสร้างตัวละครแบบอัตโนมัติ กล่าวคือคุณจะมีอิสระในการสร้างสรรค์มากขึ้น

ศิลปินแต่ละคนจะต้องตัดสินใจด้วยตัวเองว่ากำลังต้องการอะไรในซอฟต์แวร์การสร้างโมเดล 3 มิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องการใช้งานเพื่อสร้างตัวละคร 3 มิติ ปัจจัยต่างๆ ที่คุณควรพิจารณามีดังนี้

• ราคา

• ประสบการณ์ของผู้ใช้

• ความสามารถในการปรับแต่ง

• เนื้อหาที่มีให้เลือก

• ความเข้ากันได้กับซอฟต์แวร์อื่น

เนื่องจากงานศิลปะ 3 มิติเป็นกระบวนการทางเทคนิคขั้นสูง จึงอาจเป็นเรื่องยากสำหรับศิลปินมือใหม่ในการแสดงความสามารถด้านการสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ในช่วงแรก การเลือกซอฟต์แวร์ที่คุณจะอุทิศเวลาให้เป็นการตัดสินใจที่สำคัญ เนื่องจากซอฟต์แวร์ทั้งหมดจะต้องใช้เวลาในการเรียนรู้นานมาก

โปรดจำไว้ว่าเครื่องมือสร้างตัวละครเหมาะสำหรับการสร้างผลลัพธ์แบบรวดเร็วและมักจะใช้เวลาในการเรียนรู้น้อยกว่า การเรียนรู้ซอฟต์แวร์การสร้างโมเดลแบบดั้งเดิมก็จะยากยิ่งขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม ยิ่งคุณมีความเชี่ยวชาญในการใช้ซอฟต์แวร์มากเท่าไร คุณก็ยิ่งมีอิสระในการสร้างสรรค์มากขึ้น

เมื่อเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงและก้าวหน้า การสร้างตัวละครก็ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นเช่นกัน โดยทั่วไปแล้ว การสร้างโมเดลและการปั้นที่คุณจะพบได้ในปัจจุบันมี 2 วิธีหลักๆ

การสร้างโมเดลโพลีกอนได้กลายเป็นรูปแบบการสร้างชิ้นงาน 3 มิติที่โดดเด่นที่สุด ซึ่งมีการใช้งานในซอฟต์แวร์ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ศิลปินที่ใช้วิธีนี้จะสร้างโมเดล 3 มิติด้วยการสร้างตาข่ายจากรูปร่าง 2 มิติที่เรียกว่าโพลีกอน โดยโพลีกอนแต่ละรูปอาจเป็นสามเหลี่ยมหรือสี่เหลี่ยมก็ได้ โพลีกอนจะสร้างขึ้นจากส่วนของเส้นตรง โดยส่วนต่างๆ จะบรรจบกันที่มุม และเมื่อรวมกันก็จะสร้างหน้าตัดขึ้น

หนึ่งในเครื่องมือ 3 มิติที่ได้รับความนิยมมากที่สุดที่ใช้วิธีนี้ได้คือเครื่องมือแบบโอเพนซอร์สอย่าง Blender ในการรับมือกับข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ ศิลปินจำเป็นต้องระมัดระวังในการจำกัดจำนวนโพลีกอนที่จะเรนเดอร์ในฉาก ซึ่งหมายความว่าคุณต้องใช้เวลามากในการทำงานเกี่ยวกับโพลีกอนซ้ำๆ หรือต้องจัดการกับรีโทโพโลยี ซึ่งเป็นกระบวนการลดความซับซ้อนของตาข่ายเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ไม่ว่าคุณจะต้องการสร้างตัวละครที่มีสไตล์หรือตัวละครที่สมจริง ขั้นตอนพื้นฐานส่วนใหญ่จะเหมือนกัน นี่คือเคล็ดลับ 6 ข้อสำหรับการสร้างตัวละครในงาน 3 มิติ

กระบวนการ 3 มิติเป็นกระบวนการทางเทคนิค การเริ่มต้นโดยไม่มีอะไรเลยในพื้นที่ 3 มิติอาจฟังดูน่ากลัว ใช้คอนเซปต์และรูปภาพอ้างอิง 2 มิติจะช่วยทำให้คุณโฟกัสและเป็นแนวทางในการเลือกสัดส่วนและรูปลักษณ์ของตัวละคร

หลังจากที่คุณวางคอนเซปต์ของตัวละครแล้ว ก็ถึงเวลาเริ่มสร้างโมเดล อย่ารีบร้อน ให้เริ่มด้วยรูปทรงพื้นฐานเพื่อร่างหุ่นของโมเดล จากนั้นค่อยๆ เพิ่มรายละเอียด โดยให้เริ่มสร้างจากส่วนขนาดใหญ่ไปจนถึงส่วนเล็กๆ ให้เก็บรายละเอียดที่เล็กที่สุดไปทำในขั้นตอนสุดท้าย

เมื่อสร้างโมเดลตัวละครเรียบร้อยแล้ว คุณอาจสงสัยว่าต้องทำอะไรต่อ ต่อให้ตาข่ายจะสร้างขึ้นอย่างดีที่สุดเพียงใด ก็จะมีหน้าตาไม่ต่างไปจากรูปปั้นดิน การสร้างพื้นผิวเป็นวิธีที่ศิลปินที่ทำงาน 3 มิติจะเพิ่มชีวิตชีวาให้กับวัตถุด้วยการใส่พื้นผิวและวัสดุให้กับพื้นผิวของโมเดล

ลองใช้แอปอันทรงพลังอย่าง Adobe Substance 3D Painter เพื่อช่วยให้คุณสร้างพื้นผิวให้กับตัวละครได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณสามารถใช้วัสดุและมาสก์อัจฉริยะเพื่อลงรายละเอียดทั้งหมดบนพื้นผิวของโมเดลแบบเรียลไทม์

โมเดลจำเป็นต้องมีกระดูกเช่นเดียวกันกับมนุษย์ อะไรประมาณนั้น การใส่กระดูกเป็นกระบวนการกำหนดข้อต่อให้กับวัตถุเพื่อให้ซอฟต์แวร์ 3 มิติรู้ว่าจะปรับตาข่ายสำหรับการจัดท่าและการเคลื่อนไหวอย่างไร ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องใช้ความช่วยเหลือจากซอฟต์แวร์ 3 มิติและการดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดอย่างระวัดระวัง

เมื่อทำถูกต้อง คุณจะสามารถจัดกระดูกและข้อต่อของโมเดลให้ได้ท่าทางที่คุณต้องการได้ ซอฟต์แวร์บางส่วนช่วยคุณ "ลงสีแบบกำหนดน้ำหนัก" ชิ้นส่วนของตาข่ายเพื่อทำให้กระดูกที่ใส่ไปควบคุมชิ้นส่วนที่ถูกต้องของตาข่ายได้ คุณจะรู้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเมื่อเริ่มสร้างการเคลื่อนไหวและจัดท่า หากตาข่ายของคุณบิดเบี้ยวในลักษณะแปลก ๆ ในระหว่างการเคลื่อนไหว

การเรนเดอร์เป็นขั้นตอนสุดท้ายในกระบวนการสร้างรูปภาพและวิดีโอของตัวละคร การเรนเดอร์เปรียบเสมือนการกดปุ่มบันทึกบนกล้องหรือการถ่ายภาพ เครื่องมือเรนเดอร์ 3 มิติจะใช้แสงและเอฟเฟกต์ในการสร้างสไตล์และความสมจริง จากนั้นก็บันทึกรูปภาพหรือลำดับวิดีโอของภาพเคลื่อนไหว

มีตัวเลือกมากมายให้ศิลปินเลือกใช้โดยเพาะอย่างยิ่งในการสร้างเกมและ VFX Adobe Substance 3D มีแอปชั้นนำของวงการอย่าง Substance 3D Designer และ Painter รวมถึงเครื่องมือทั้งหมดที่คุณต้องใช้เพื่อดำเนินการในกระบวนการโดยทั่วไปส่วนใหญ่สำหรับงาน 3 มิติ โดยทั้งหมดนี้รวมอยู่ในการสมัครใช้งานที่จัดการง่าย

ด้วยแอปอันทรงพลัง 5 แอปและไลบรารีเนื้อหาขนาดใหญ่ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แผน Adobe Substance 3D เป็นตัวเสริมที่ยอดเยี่ยมสำหรับตัวละครใดๆ ที่ศิลปินเลือกใช้ตลอดกระบวนการออกแบบเกม