https://main--cc--adobecom.hlx.page/cc-shared/fragments/merch/products/firefly/sticky-banner/explore-firefly

#F5F5F5

รูปแบบศิลปะคืออะไร

ตั้งแต่ภาพวาดผนังถ้ำยุคก่อนประวัติศาสตร์ไปจนถึงศิลปะพิกเซลสไตล์โพสต์โมเดิร์น แต่ละยุคต่างก็มีการสร้างสรรค์ศิลปะในรูปแบบที่โดดเด่น รูปแบบเหล่านี้มักเกิดขึ้นเพื่อตอบโต้กับกระแสนิยมที่มีมาก่อนหน้า ตัวอย่างเช่น ศิลปะแนวอิมเพรสชันนิสม์ที่มีลักษณะตรงกันข้ามกับศิลปะแนวเรียลลิสม์ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ซึ่งศิลปะแนวเรียลลิสม์เองก็เป็นรูปแบบศิลปะที่ตอบโต้กับศิลปะแนวโรแมนติกที่มีมาก่อนหน้าเช่นกัน

ตามประวัติศาสตร์แล้ว จิตรกรและประติมากรจะได้รับการฝึกฝนตามรูปแบบศิลปะที่ได้รับความนิยมในช่วงเวลาของตน แต่เมื่อมีเครื่องมือสร้างงานศิลปะด้วย AI ทุกคนก็สามารถสร้างงานศิลปะในรูปแบบใดจากยุคสมัยใดก็ได้

เหตุใดจึงต้องเพิ่มรูปแบบศิลปะลงในข้อความคำสั่ง AI

Firefly AI generated image. Prompt: (left) 80’s retro robot dancing in a busy club, lots of people, abstract
Firefly AI generated image. Prompt: (right) retro robot dancing in a busy club, lots of people, psychedelic anime
ข้อความคำสั่ง: (ซ้าย) หุ่นยนต์ย้อนยุคสมัยยุค 80 กำลังเต้นในคลับที่วุ่นวาย, ผู้คนมากมาย, แบบนามธรรม (ขวา) หุ่นยนต์ย้อนยุคกำลังเต้นในคลับที่วุ่นวาย, ผู้คนมากมาย, อนิเมะแบบไซคีเดลิก

Firefly AI generated image. Prompt: a man in a tuxedo standing in front of a cocktail bar, art deco style

ข้อความคำสั่ง: ผู้ชายสวมชุดทักซิโด้ยืนอยู่ข้างหน้าบาร์ค็อกเทล, รูปแบบอาร์ตเดโค

รูปแบบศิลปะยอดนิยมที่คุณสามารถลองใช้ได้ใน Firefly

Firefly generated Dogs in a Bauhaus style

เบาเฮาส์

สถาบันเบาเฮาส์ก่อตั้งขึ้นที่ประเทศเยอรมนีในช่วงทศวรรษ 1910 ซึ่งศิลปะรูปแบบเบาเฮาส์ได้มุ่งเน้นหลักการที่ว่าการออกแบบสมัยใหม่ควรเรียบง่าย ใช้งานได้จริง และทำซ้ำในจำนวนมากได้ง่าย ใช้ศิลปะรูปแบบเบาเฮาส์เพื่อสร้างรูปภาพในแบบรูปทรงเรขาคณิตและเส้นที่ลากแบบเรียบง่าย

อิมเพรสชันนิสม์

เกิดขึ้นในประเทศฝรั่งเศสในช่วงกลางศตรวรรษที่ 19 ขณะที่จิตรกรแนวอิมเพรสชันนิสม์พยายามถ่ายทอดภาพจากช่วงเวลาที่เกิดขึ้น ตัวแบบของภาพมักเป็นผู้คนและสถานที่ในชีวิตประจำวัน โดยแทนที่จะถ่ายทอดภาพออกมาให้ดูสมจริง จิตรกรกลับทำให้เห็นรอยตวัดแปรงและขีดหนาโดยใช้สีที่ไม่ได้ผสมให้เข้ากันดีเพื่อถ่ายทอดลักษณะของแสงและให้อารมณ์ของความเป็นธรรมชาติ ลองใช้ศิลปะรูปแบบนี้เพื่อกระตุ้นให้นึกถึงความรู้สึกเดียวกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เจาะจง

Firefly generated Dogs in Impressionism style
Firefly generated Dogs in Cubist style

คิวบิสม์

ศิลปะรูปแบบคิวบิสม์มีชื่อเสียงโด่งดังจาก Pablo Picasso และ Georges Braque ในตอนต้นของยุคทศวรรษ 1900 โดยรูปแบบนี้จะแยกย่อยองค์ประกอบให้เป็นรูปทรงเรขาคณิตและพยายามถ่ายทอดตัวแบบจากทุกมุมมอง จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ตัวแบบในผลงานจำนวนมากของ Picasso มีดวงตาไม่เท่ากันและมีสองจมูก โดยมีหนึ่งจมูกในมุมมองด้านข้าง และอีกหนึ่งจมูกในมุมเอียง หากเลือกใช้ศิลปะรูปแบบคิวบิสม์ ระบบจะสร้างรูปภาพออกมาในแบบที่เต็มไปด้วยรูปทรงเรขาคณิตและมุม

ไซคีเดลิก

ศิลปะแบบไซคีเดลิกมีแนวโน้มผสมผสานสีสันที่สดใสเข้ากับรูปแบบที่หมุนวนอย่างประณีตเพื่อสร้างภาพที่บิดเบี้ยวและเหนือจริง (ลองนึกถึงโปสเตอร์คอนเสิร์ตจากยุคช่วงปลายทศวรรษ 1960) ศิลปะรูปแบบไซคีเดลิกทำให้มั่นใจว่าไม่ว่าข้อความคำสั่งคุณจะเป็นอะไร ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะเป็นผลลัพธ์ที่ชวนฝันและเหนือความคาดหมาย

Firefly generated Dogs in a Psychedelic style
Firefly generated Dogs in a Steampunk style

สตีมพังก์

ศิลปะแนวสตีมพังก์มีที่มาจากแนวสตีมพังก์ในนิยายวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นการนำสไตล์วิกตอเรียนในศตวรรษที่ 19 และเทคโนโลยีเครื่องจักรไอน้ำมารวมกับนิยายวิทยาศาสตร์และสื่อแนวแฟนตาซี โดยเอฟเฟกต์ของสตีมพังก์จะประดับตกแต่งตัวแบบด้วยเสื้อผ้ายุคเก่า (บางครั้งอาจมีแว่นตากันลม) และสร้างเครื่องจักรที่ดูซับซ้อนและสวยงาม

เซอร์เรียลลิสม์

ศิลปะแนวเซอร์เรียลลิสม์เริ่มต้นในช่วงทศวรรษ 1920 ซึ่งศิลปินแนวเซอร์เรียลลิสม์พยายามถ่ายทอดจิตไร้สำนึกและความฝันในรูปแบบที่ปลดปล่อยประสบการณ์ทั้งหมดของมนุษย์ออกมาอย่างเต็มที่ รูปแบบนี้เหมาะสำหรับการอธิบายถึงความฝันหรือการนำเสนอช่วงเวลาแปลกประหลาดในชีวิต

Firefly generated Dogs in a Surrealist style
Firefly generated Dogs in a Synthwave style

ซินธ์เวฟ

ซินธ์เวฟคือแนวดนตรีอิเล็กทรอนิกส์จากช่วงต้นสมัยทศวรรษ 2000 และยังเป็นรูปแบบภาพที่ชวนให้นึกถึงเหตุการณ์ในยุคทศวรรษ 1980 และรายการโทรทัศน์แนวไซไฟ ลักษณะเด่นของรูปแบบศิลปะประเภทนี้คือสีชมพูสว่าง สีม่วง และสีเขียวอมน้ำเงิน ซึ่งเป็นเหมือนการใส่กลิ่นอายของไมอามีในยุคทศวรรษ 1980 เข้าไปยังข้อความคำสั่งของคุณ

วิธีเพิ่มรูปแบบศิลปะลงในข้อความคำสั่งใน Firefly

คุณสามารถเริ่มต้นได้โดยการเปลี่ยนไอเดียให้เป็นข้อความคำสั่ง (หากคุณต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม ให้ลองดูขั้นตอนในการสร้างงานศิลปะด้วย AI) จากนั้นเพิ่มชื่อรูปแบบศิลปะที่ต้องการใช้ลงในช่องข้อความคำสั่งโดยตรง หากคุณไม่แน่ใจว่าศิลปะรูปแบบไหนเหมาะกับไอเดียของคุณ คุณสามารถทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อลองใช้รูปแบบศิลปะต่างๆ จากแผงควบคุมได้

  • เปิด Firefly
    ไปที่โมดูลสร้างรูปภาพจากข้อความใน Firefly
  • ค้นหาแผงควบคุม
    คลิกที่รูปภาพตัวอย่างหนึ่งรูปเพื่อเปิดแผงควบคุม
  • เรียกดูรูปแบบศิลปะ
    ในส่วน Effects ตรงแผงควบคุม ให้คลิก Movements เลื่อนดูรายการแล้วคลิกที่รูปแบบทางศิลปะที่คุณต้องการใช้
  • เพิ่มข้อความคำสั่งของคุณ
    พิมพ์ข้อความคำสั่งของคุณลงในช่องข้อความคำสั่ง (ดูเคล็ดลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเขียนข้อความคำสั่งให้มีประสิทธิภาพ)
  • สร้าง
    คลิก Generate แล้วดูผลลัพธ์
  • ปรับแต่ง
    เปลี่ยนหรือเพิ่มข้อความคำสั่งของคุณ ลองศิลปะรูปแบบต่างๆ หรือเพิ่มทิศทางมากขึ้นโดยเลือกใช้เมนู Color and Tone, Lighting และ Composition นอกจากนี้ คุณยังสามารถลองใช้ข้อความคำสั่งเชิงลบเพื่อละเว้นองค์ประกอบออกจากผลลัพธ์ได้อีกด้วย
Tiger in color and in black and white

แนะแนวทางเกี่ยวกับสไตล์ให้กับ Firefly มากยิ่งขึ้นด้วย Generative Match

แก้ไขบางส่วนของรูปภาพด้วย Generative Fill

Firefly AI generated image. Prompt: husky dog dj with sunglasses tongue out with paw on spinner, long-time exposure, digital art

ข้อความคำสั่ง: สุนัขดีเจฮัสกี้สวมแว่นตาแลบลิ้นเอาอุ้งเท้าวางบนแผ่นหมุน, ปรับความเร็วชัตเตอร์ค้างไว้เป็นเวลานาน, ศิลปะดิจิทัล

{{questions-we-have-answers}}

รูปแบบศิลปะใดเหมาะสำหรับข้อความคำสั่ง AI ที่สุด

รูปแบบศิลปะที่ต่างกันเหมาะกับข้อความคำสั่งที่ต่างกัน ดังนั้นให้ลองพิจารณาถึงรูปลักษณ์ที่คุณต้องการ หากคุณยังไม่แน่ใจ ให้ลองสำรวจงานศิลปะรูปแบบต่างๆ แล้วดูว่าคุณชื่นชอบรูปแบบไหนที่สุด ซึ่งวิธีนี้อาจช่วยสร้างมูดบอร์ดของรูปภาพที่เป็นแรงบันดาลใจให้คุณใช้เป็นแนวทางในการป้อนข้อความคำสั่งได้

ไอเดียบางส่วนเกี่ยวกับรูปแบบศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับข้อความคำสั่ง AI มีอะไรบ้าง

ทดลองเล่นกับตัวแบบและรูปแบบ ลองใช้ไอเดียแบบดั้งเดิมเช่น “เรือใบสีน้ำ” หรือ “ภาพพิมพ์แกะไม้ของภูเขาไฟฟูจิที่มีชาวนาอยู่ด้านหน้า” นอกจากนี้คุณยังสามารถผสมผสานรูปแบบและตัวแบบได้ด้วย เช่น “คอนเสิร์ตเฮฟวีเมทัลแบบสีน้ำ” หรือ “ภาพพิมพ์แกะไม้ของรถบนทางด่วนในช่วงที่มีการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วน” ให้พารามิเตอร์เพิ่มเติมแก่ AI เมื่อใช้งาน โดยการเพิ่มคำอธิบายเกี่ยวกับฉากที่คุณนึกภาพให้มีรายละเอียดมากขึ้น จากนั้นลองใช้ฉากเดิมกับรูปแบบต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับรูปลักษณ์ของแต่ละรูปแบบ ตัวอย่างเช่น “หมีเท็ดดี้ปิกนิก” ที่ตีความในรูปแบบอาร์ตนูโวจะมีความแตกต่างกันกับเวอร์ชันนีโอ-เอ็กซ์เพรสชันนิสม์เป็นอย่างมาก
เครื่องมือสร้างงานศิลปะด้วย AI มีหลักการทำงานอย่างไร
ในฐานะเทคโนโลยี Generative AI ประเภทหนึ่ง เครื่องมือสร้างงานศิลปะด้วย AI จึงมีลักษณะการทำงานคล้ายคลึงกับปัญญาประดิษฐ์ประเภทอื่นๆ ซึ่งจะนำโมเดลแมชชีนเลิร์นนิงและชุดข้อมูลขนาดใหญ่หลายชุดมาใช้เพื่อให้สามารถสร้างผลลัพธ์ประเภทใดประเภทหนึ่งได้ Generative AI ทำให้ไม่ว่าใครก็สามารถนำถ้อยคำที่พบเจอในชีวิตประจำวันและอินพุตรูปแบบอื่นมาใช้ในการสร้างรูปภาพ วิดีโอ เอกสาร ประสบการณ์ดิจิทัล และอีกมากมาย Adobe Firefly กำลังจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของ Creative Cloud เพื่อมอบเครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้คนสามารถสร้างผลลัพธ์อย่างรวดเร็วและปรับแต่งผลลัพธ์เหล่านั้นให้ตรงตามภาพในจินตนาการอย่างไม่ซ้ำใครได้

https://main--cc--adobecom.hlx.page/cc-shared/fragments/products/firefly/aside-dream-bigger-with-firefly

คุณอาจสนใจสิ่งเหล่านี้ด้วย

Generative AI คืออะไรและมีหลักการทำงานอย่างไร

ดูข้อมูลเพิ่มเติม

ศิลปะจาก AI สำหรับผู้พัฒนาเกม

ดูข้อมูลเพิ่มเติม

งานศิลปะจาก AI คืออะไรและมีวิธีสร้างสรรค์อย่างไร

ดูข้อมูลเพิ่มเติม

AI สำหรับนักออกแบบกราฟิก

ดูข้อมูลเพิ่มเติม