Generative AI เป็นประโยชน์กับนักสร้างสรรค์อย่างไรบ้าง
เครื่องมือ Generative AI โฉมใหม่ทำให้วิธีการทำงานและการสร้างสรรค์ของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เรียนรู้วิธีใช้เครื่องมือเหล่านี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและค้นพบความเป็นไปได้ใหม่ๆ ขณะเดียวกันก็ยังคงควบคุมผลงานสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่
ประโยชน์ของ Generative AI โดยสรุป
- Generative AI ช่วยให้สร้างสรรค์งานได้ง่ายดายยิ่งขึ้น
- Generative AI ช่วยให้ทุกคนสามารถทดลองไอเดียใหม่ๆ และทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
- เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ให้ใช้โมเดล Generative AI ที่มีจริยธรรมและใช้โมเดลนั้นอย่างมีความรับผิดชอบ
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ Generative AI
Generative AI คือปัญญาประดิษฐ์รูปแบบหนึ่งที่สร้างเนื้อหาใหม่ขึ้นมา เช่น ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ เสียง และโค้ดคอมพิวเตอร์ โดยอิงจากรูปแบบที่เรียนรู้จากข้อมูลที่มีอยู่
แม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะมีมานานกว่าหลายทศวรรษแล้วในแชทบอท แต่ด้วยการพัฒนาโครงข่ายระบบประสาทหรือโมเดลภาษาขนาดใหญ่ จึงทำให้คุณภาพของเนื้อหาที่สร้างขึ้นด้วย AI พัฒนาขึ้นอย่างมาก โมเดลเหล่านี้สามารถจดจำรูปแบบและทำการคาดการณ์ที่จะช่วยสร้างข้อความใหม่ รูปภาพ และอื่นๆ อีกมากมายได้ด้วยชุดข้อมูลที่ประกอบด้วยตัวอย่างหลายร้อยล้านตัวอย่าง
ดูว่า Generative AI มีหลักการทำงานอย่างไร
ไม่ว่าจะเป็นนักออกแบบ นักการตลาด ผู้พัฒนา หรือเป็นเพียงผู้ที่ชื่นชอบการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ คุณก็สามารถใช้ประโยชน์จาก Generative AI และผสานรวมเข้ากับกระบวนการทางศิลปะของคุณได้ นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการทำความเข้าใจถึงผลกระทบของ Generative AI ที่มีต่องานสร้างสรรค์และวิธีที่เทคโนโลยีนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความคิดสร้างสรรค์ โดยไม่ได้เข้ามาแทนที่
Generative AI เพิ่มประสิทธิภาพให้กับงานสร้างสรรค์ได้อย่างไร
ข้อความคำสั่ง: สุนัขขับรถเปิดประทุนสีชมพูผ่านก้อนเมฆ
ก้าวข้ามปัญหาการคิดไอเดียไม่ออกและไอเดียตัน
เมื่อคิดไอเดียไม่ออก คุณก็สามารถใช้ Generative AI เพื่อกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ สำรวจดูความเป็นไปได้ใหม่ๆ หรือร่างแนวคิดแบบคร่าวๆ ได้ ตัวอย่างเช่น คุณอาจเริ่มระดมความคิดด้วยความช่วยเหลือของ Generative AI โดยใช้เพียงแค่ข้อความคำสั่งง่ายๆ ซึ่งรวดเร็วและง่ายดายพอๆ กับการอธิบายไอเดีย เช่น “สุนัขขับรถเปิดประทุนสีชมพูผ่านหมู่เมฆ” แล้วคลิก Generate
จากนั้น คุณอาจเพิ่มคู่หูให้กับสุนัขหรือเปลี่ยนรถเปิดประทุนเป็นนกอินทรียักษ์ก็ได้ สิ่งที่คุณสร้างสรรค์ได้นั้นไม่มีขีดจำกัด และความอิสระนี้อาจเพิ่มโอกาสใหม่ๆ ให้คุณได้
ทำงานได้เร็วขึ้น
นอกเหนือจากการเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับการคิดไอเดียใหม่ๆ แล้ว Generative AI ยังช่วยคุณพัฒนาไอเดียเหล่านั้นได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เมื่อมีเครื่องมืออย่าง Generative Fill ใน Photoshop และเว็บแอป Adobe Firefly สิ่งเดียวที่คุณต้องใช้ในการเพิ่มองค์ประกอบใหม่ๆ ให้กับรูปภาพก็คือข้อความคำสั่งง่ายๆ
ตัวอย่างเช่น คุณอาจเพิ่มแว่นกันแดดหรือหมวกเบสบอลให้กับสุนัขที่อยู่บนรถบินได้ หรือคุณอาจสร้างโปสเตอร์เพื่อโฆษณาการลดราคาให้กับร้านค้าอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง เมื่อคุณพอใจกับรูปภาพที่สร้างแล้ว คุณสามารถเพิ่มข้อความเกี่ยวกับการลดราคาใน Adobe Photoshop หรือ Adobe Express แล้วไปทำงานโปรเจกต์ถัดไปได้
ข้อความคำสั่ง: สุนัขขนปุยเล่นกระดานโต้คลื่น
ปรับแต่ง ทดลอง และทำซ้ำ
Generative AI อาจเป็นคู่หูในการทำงานที่มีประโยชน์ได้ คุณสามารถป้อนข้อความคำสั่งจากความฝันเหนือจินตนาการ แล้วทำซ้ำ ปรับแต่งข้อความคำสั่งไปเรื่อยๆ และสร้างงานใหม่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เมื่อใช้เครื่องมือสร้างงานศิลปะด้วย AI ที่เหมาะสม คุณจะสามารถปรับแต่งรูปภาพได้จนกว่าจะได้รูปภาพตามที่ต้องการ
หากคุณไม่แน่ใจว่าต้องการสร้างสรรค์สิ่งใด (บางทีรถเปิดประทุนสีชมพูอาจจะดูเกินเหตุไปสักนิด) ก็ให้เริ่มจากการพิมพ์แล้วดูการแนะนำข้อความคำสั่ง หรือเริ่มจากข้อความคำสั่งทั่วไป เช่น “สุนัขขนปุย” แล้วดูว่า Generative AI จะสร้างสรรค์อะไรให้ จากนั้นจึงทดลองหรือปรับแก้ข้อความคำสั่งต่อไปเมื่อไอเดียเริ่มลื่นไหล
นอกจากนี้ Generative AI ยังช่วยให้คุณสามารถสำรวจรูปแบบสีต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย หากคุณกำลังออกแบบกราฟิกเวกเตอร์ แต่ไม่แน่ใจว่าใช้ชุดสีที่เหมาะสมหรือไม่ คุณสามารถสำรวจชุดสีใหม่ได้ทันทีด้วย Generative Recolor ใน Adobe Illustrator
สิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อสร้างงานศิลปะด้วย Generative AI
แม้ว่า Generative AI จะช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และประสิทธิภาพการทำงานได้ แต่ก็มีปัจจัยบางประการที่คุณควรคำนึงถึงก่อนเริ่มทำงาน
เครื่องมือสร้างงานศิลปะด้วย AI ไม่ได้ออกแบบมาเหมือนกันทั้งหมด โมเดล AI จะมีประสิทธิภาพมากหรือน้อยเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ใช้เทรน ดังนั้นขนาดและคุณภาพของชุดข้อมูลจึงเป็นสิ่งสำคัญ เราคำนึงถึงอคติของมนุษย์อยู่เสมอ
สำหรับ Adobe Firefly เราได้ทดสอบโมเดลเพื่อรักษาความปลอดภัยและตรวจหาอคติเป็นการภายในอยู่เสมอ โดยฟีเจอร์ AI ของเราจะมีกลไกการตอบกลับเพื่อให้ผู้ใช้สามารถรายงานข้อกังวล ซึ่งจะทำให้เราดำเนินขั้นตอนในการแก้ไขข้อกังวลดังกล่าวได้ คุณสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดำเนินการและความมุ่งมั่นของ Adobe ในการพัฒนา AI อย่างมีความรับผิดชอบได้
ข้อความคำสั่ง: น้ำอัดลมสีเขียวมะนาวที่มีฟองอากาศ
เริ่มต้นใช้งาน Generative AI ของ Adobe Firefly
เริ่มรับประโยชน์จาก Generative AI ด้วยเว็บแอป Firefly วาดฝันรูปภาพและภาพประกอบขึ้นมาใหม่ตั้งแต่ต้นด้วยฟีเจอร์สร้างรูปภาพจากข้อความ จากนั้นลองใช้งานฟีเจอร์ Firefly อื่นๆ เช่น Text Effects และ Generative Fill เพื่อดูว่าคุณจะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้รวดเร็วและง่ายดายเพียงใด
พร้อมลองใช้ฟีเจอร์ Firefly ที่มีอยู่ในแอปอื่นๆ ของ Adobe Creative Cloud ดังนี้
- ขยายรูปภาพด้วย Generative Expand ใน Adobe Photoshop
- สร้างกราฟิกแบบเวกเตอร์ด้วยข้อความคำสั่งใน Adobe Illustrator
- สร้างเทมเพลตด้วยข้อความคำสั่งใน Adobe Express
ฟีเจอร์เหล่านี้รวมถึงฟีเจอร์อื่นๆ ที่จะตามมาในอนาคต ช่วยให้ชุดเครื่องมือสร้างสรรค์ของคุณมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และการทำงานสร้างสรรค์ของคุณจะง่ายดายขึ้นและสนุกขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน
