ดำดิ่งสู่โลกของการถ่ายภาพน้ำ

"การถ่ายภาพน้ำเป็นเรื่องของการแสดงการเคลื่อนไหวของน้ำ” ช่างภาพ Aubry Healy กล่าว “คุณต้องการที่จะเห็นบางสิ่งเคลื่อนไหวอยู่ตลอด การถ่ายภาพน้ำสามารถเร่งความเร็วหรือลดความเร็วของน้ำได้ ราวกับหยุดเวลา”

เคล็ดลับต่างๆ เหล่านี้คือสิ่งที่คุณต้องรู้เพื่อการถ่ายภาพแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว เม็ดฝนที่กำลังตกลงมา และภาพน้ำอื่นๆ ที่ยอดเยี่ยม

วิธีการถ่ายภาพน้ำ

น้ำไม่มีรูปร่าง ความเร็ว หรือรูปลักษณ์ที่ตายตัว เพราะน้ำเป็นสสารที่แปรเปลี่ยนเพื่อเติมเต็มพื้นที่ว่างได้ ดังนั้นการถ่ายภาพน้ำจึงไม่ใช่แค่เรื่องของการค้นหามุมที่เหมาะสมในการถ่ายภาพ แต่ยังเป็นเรื่องของการมุ่งเน้นไปที่คุณลักษณะเฉพาะของน้ำในขณะนั้นด้วย หากต้องการถ่ายภาพน้ำ ช่างภาพจะต้องมีความลื่นไหลเช่นเดียวกับแบบที่ต้องการถ่าย

ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ การจัดแสง และสภาพอากาศเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการถ่ายภาพน้ำในรูปแบบต่างๆ ช่างภาพภูมิทัศน์ที่ถ่ายภาพแม่น้ำที่คดเคี้ยวตอนพระอาทิตย์ขึ้นย่อมต้องการอุปกรณ์ที่แตกต่างจากช่างภาพที่ถ่ายภาพหยดน้ำที่กระเซ็นจากคลื่นที่ยกตัวสูง หากคุณต้องลงน้ำเพื่อถ่ายภาพที่คุณต้องการ การศึกษาข้อมูลจะช่วยให้คุณแน่ใจได้ว่าคุณพกพาอุปกรณ์ที่เหมาะสมไปด้วย

การจัดแสงสำหรับการถ่ายภาพน้ำ

แสงแดดที่แรงเกินไปสร้างปัญหาให้กับช่างภาพได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นการถ่ายภาพน้ำ แสงแดดเหนือศีรษะอาจสะท้อนจากผิวน้ำและทำให้เกิดแสงจ้าได้ หากคุณต้องการถ่ายภาพภูมิทัศน์ของมหาสมุทรที่มีแสงแดดให้รอจนกว่าจะผ่านช่วงเที่ยงวันไปและวางแผนการถ่ายภาพในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกในช่วงที่เรียกว่า Golden Hour แสงที่นุ่มนวลของช่วง Golden Hour จะทำให้ฉากนั้นดูสว่างไสวโดยไม่ก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับแสงสะท้อน หากคุณต้องการถ่ายภาพชายหาดชื่อดังในช่วง Golden Hour ให้ลองไปถ่ายภาพในช่วงเช้าตรู่

แม้ว่าคุณจะวางแผนและศึกษาข้อมูลมาแล้ว แต่คุณไม่สามารถควบคุมแสง สภาพอากาศ หรือสภาพของน้ำได้ เตรียมตัวให้พร้อมกับการเปลี่ยนแผนแบบกระทันหันเมื่อสภาพแวดล้อมไม่เป็นใจ “คุณต้องชอบว่ายน้ำ ชอบออกไปข้างนอก และชอบอยู่ในน้ำ” ช่างภาพ Giancarlo Beroldo กล่าว “มีหลายวันที่คุณออกไปแล้วต้องพ่ายแพ้กลับมา” แต่ทุกๆ วันที่ไม่เป็นไปดั่งหวังนั้นก็ยังให้ประสบการณ์ที่คุณสามารถนำไปต่อยอดในครั้งต่อไปได้

ตั้งกล้องของคุณเพื่อการถ่ายภาพน้ำ

น้ำนั้นสามารถเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วหรือเชื่องช้า การตั้งค่าที่เหมาะสมกับการถ่ายภาพน้ำจะเปลี่ยนไปตามสิ่งที่คุณถ่ายไม่ว่าจะเป็นภาพมหาสมุทรในวันที่คลื่นลมสงบหรือน้ำตกที่ไหลหลั่นและรายล้อมไปด้วยหยดน้ำมากมาย ก่อนที่คุณจะถ่ายภาพน้ำ คุณต้องกำหนดว่าคุณต้องการให้ภาพที่ได้ออกมาในลักษณะใด

ภาพถ่ายภูมิทัศน์น้ำนั้นมักจะใช้รูรับแสงที่เล็กกว่าเพื่อเก็บรายละเอียดระยะชัดลึกที่ทำให้องค์ประกอบทั้งหมดในภาพถ่ายตั้งแต่ก้อนหินที่อยู่ใกล้เคียงไปจนถึงเมฆที่อยู่ห่างออกไปคมชัดและมีรายละเอียดที่ชัดเจน

สำหรับภาพการเคลื่อนไหวของแบบ เช่น คลื่น นักเล่นสกีน้ำ หรือ WaveRunners ที่คมชัด คุณจะต้องจับภาพการเคลื่อนไหวนั้นไว้ ความเร็วชัตเตอร์ที่สูงจะช่วยให้คุณถ่ายภาพนักเซิร์ฟที่เพิ่งโผล่พ้นเกลียวคลื่นได้อย่างเหมาะเจาะ เมื่อเปิดชัตเตอร์ในระยะเวลาสั้นๆ คุณจะต้องปรับเซนเซอร์กล้องของคุณให้ไวต่อการรับแสงที่เข้ามา ลองใช้ค่า ISO ที่สูงเพื่อการเปิดรับแสงที่ดียิ่งขึ้นในการถ่ายภาพด้วยความเร็วชัตเตอร์สูง

เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมเปียก

หากคุณต้องการถ่ายภาพน้ำ คุณ (และอุปกรณ์ของคุณ) จะต้องเปียกน้ำอย่างเลี่ยงไม่ได้ การใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมเพื่อปกป้องตัวคุณและกล้องของคุณนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ

ตัวเรือนกล้อง

หากคุณวางแผนที่จะนำกล้องไปถ่ายภาพในน้ำ อย่าลืมใช้ตัวเรือนกันน้ำ ตัวเรือนที่เหมาะสมนั้นไม่เพียงแต่จะปกป้องกล้องของคุณจากหยดน้ำและน้ำที่กระเซ็นมาโดนกล้อง แต่ยังจำเป็นต่อการถ่ายภาพใต้น้ำอีกด้วย เมื่อกล้องของคุณปลอดภัยจากน้ำแล้ว คุณสามารถพกพากล้องไปได้เกือบทุกที่

ประเภทของตัวเรือนที่คุณใช้นั้นขึ้นอยู่กับประเภทของเลนส์ที่คุณต้องการใช้ในการถ่ายภาพ “คุณจะถ่ายภาพโดยใช้เลนส์ไพรม์หรือคุณจะใช้เลนส์อื่นที่สามารถซูมได้แทน” Beroldo กล่าว “ตัวเรือนสำหรับเลนส์ซูมนั้นมีราคาแพงกว่ามาก”

ขาตั้งกล้อง

เนื่องจากในตอนพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกนั้นจะมีแสงน้อยกว่า ทำให้ภาพภูมิทัศน์มหาสมุทรในช่วงเวลาเหล่านี้มักจะต้องใช้การเปิดรับแสงที่ยาวนานกว่า ขาตั้งกล้องจะทำให้กล้องของคุณมั่นคงในขณะที่กำลังถ่ายภาพที่ต้องใช้การเปิดรับแสงที่ยาวนาน เนื่องจากหากกล้องขยับจะทำให้ภาพหลุดโฟกัสได้ ความมั่นคงเป็นสิ่งที่สำคัญในการถ่ายภาพที่ต้องใช้การเปิดชัตเตอร์ที่ยาวนานเหล่านี้ เพียงแค่การใช้นิ้วสัมผัสตัวกล้องนั้นก็อาจทำให้กล้องสั่นมากเกินไปได้ แต่การตั้งเวลาหน่วงชัตเตอร์หรือการใช้รีโมทกดชัตเตอร์จากระยะไกลก็สามารถช่วยป้องกันการสั่นไหวได้ “ฉันจะตั้งเวลาหน่วงชัตเตอร์สักสองวินาทีเสมอเมื่อฉันถ่ายภาพที่ต้องใช้การเปิดรับแสงยาวนาน” Healy กล่าว

ฟิลเตอร์ ND หรือฟิลเตอร์โพลาไรซ์

แม้ว่าคุณจะหลีกเลี่ยงการถ่ายภาพในตอนเที่ยงวัน แต่ในบางครั้งคุณก็ไม่สามารถเลี่ยงแสงที่สะท้อนจากผิวน้ำได้ ฟิลเตอร์ Neutral Density (หรือที่รู้จักกันในชื่อฟิลเตอร์ ND) จะช่วยลดแสงในน้ำที่มากเกินไปได้ ฟิลเตอร์ ND จะลดความเข้มของแสงโดยยังคงรักษาสีของภาพเอาไว้ได้โดยเป็นฟีเจอร์ที่สำคัญสำหรับช่างภาพที่ถ่ายภาพกลางแจ้ง ฟิลเตอร์โพลาไรซ์หรือฟิลเตอร์โพลาไรซ์แบบกลมเองก็ทำงานในลักษณะที่คล้ายกันแต่จะมุ่งเน้นไปที่การลบแสงจ้าออก

รองเท้าบูท

ในการถ่ายภาพที่ตรงใจในบางครั้งนั้น คุณจำเป็นต้องเดินฝ่าคลื่นที่เย็นยะเยือกในมหาสมุทรขณะที่มีคลื่นสูงหรือลุยแอ่งน้ำตื้นซึ่งเต็มไปด้วยตะไคร่น้ำในแม่น้ำที่กว้างใหญ่และไหลไปเรื่อย รองเท้าบูทกันน้ำจะช่วยให้เท้าของคุณแห้งเพื่อที่คุณจะได้มีสมาธิกับการถ่ายภาพแทนที่จะเสียสมาธิกับฝ่าเท้าเย็นยะเยือก

ฟินดำน้ำ

ในการถ่ายภาพน้ำในบางครั้ง คุณจะต้องดำดิ่งสู่ท้องทะเลและว่ายน้ำโดยถือกล้องไว้ในมือ เมื่อเป็นเช่นนั้น มีเพียงขาของคุณเท่านั้นที่จะทำให้คุณลอยตัวอยู่ได้ ฟินดำน้ำจะช่วยให้คุณประคองตัวให้โผล่พ้นน้ำในตอนที่มือของคุณถือกล้องอยู่

“หากคุณลงไปในน้ำ คุณจะต้องพึ่งพาร่างกายช่วงล่างของคุณแบบ 100%” Beroldo ผู้ซึ่งมักจะถือกล้องด้วยมือทั้งสองข้างในขณะที่ประคองตัวเองให้ลอยอยู่ได้โดยใช้เท้าที่สวมฟินดำน้ำกล่าว มองหาฟินดำน้ำที่มีสายผูกติดกับขาของคุณ ด้วยวิธีนี้ ฟินดำน้ำก็จะไม่หลุดหายไปหากฟินหลุดออกจากเท้าของคุณ

อุปกรณ์ป้องกัน

หากคุณต้องการถ่ายภาพผู้คนที่กำลังทำท่า Hang Ten หรือกำลังฝ่าเกลียวคลื่น คุณอาจจะต้องว่ายอยู่ท่ามกลางนักเซิร์ฟ เมื่อตาของคุณกำลังมองแบบอยู่ คุณอาจจะไม่เห็นนักโต้คลื่นคนอื่นด้านหลังคุณ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่คุณควรสวมหมวกนิรภัยในกรณีที่มีเซิร์ฟบอร์ดพุ่งเข้ามาหาคุณ

เมื่อคุณถ่ายภาพในน้ำซึ่งอาจจะมีนักเซิร์ฟ นักว่ายน้ำ นักตกปลา หรือเรืออยู่ด้วย การทำให้ผู้อื่นมองเห็นคุณอยู่เสมอเป็นสิ่งที่สำคัญ เสื้อผ้าหรืออุปกรณ์ที่มีสะท้อนแสงจะทำให้ผู้อื่นสังเกตเห็นคุณได้ “ทุกอย่างบนร่างกายของคุณไม่ควรเป็นสีเข้มอย่างสีน้ำเงินหรือสีดำ” Beroldo อธิบาย เนื่องจากสีเหล่านี้จะกลมกลืนไปกับสีของน้ำ “ตัวเรือนกล้องของผมนั้นเป็นสีแดงและสีเหลือง”