วิดีโอ
เพิ่มการตัดภาพแบบกระโดดลงในการผลิตวิดีโอ
ลองใช้เทคนิคการตัดต่อที่แสดงอยู่ในทุกๆ สิ่ง ตั้งแต่ภาพยนตร์สุดล้ำสมัยไปจนถึง Vlog ของ YouTuber ทำได้ง่ายนิดเดียวด้วย Adobe Premiere Pro
การตัดภาพแบบกระโดดในภาพยนตร์คืออะไร
การตัดภาพแบบกระโดดในการสร้างภาพยนตร์คือการตัดต่อจากช็อตเดียวที่อยู่ในลำดับต่อเนื่องกัน ซึ่งทำให้การเคลื่อนไหวดูเหมือนกระโดดข้ามเวลาไปข้างหน้าได้ โดยเทคนิคนี้จะต้องแบ่งย่อยช็อตที่ต่อเนื่องกันออกเป็นสองส่วน เพื่อให้ตรงกับคำจำกัดความในตำราของการตัดภาพแบบกระโดด ซึ่งจะทำให้ตัวแบบในวิดีโอ “กระโดด” ไปยังตำแหน่งที่แตกต่างอย่างกะทันหัน จึงกลายเป็นที่มาของชื่อดังกล่าว
หลังจากการตัดภาพแล้ว ตัวแบบอาจปรากฏในตำแหน่งหรือท่าทางที่แตกต่างออกไป หรือตำแหน่งกล้องอาจเปลี่ยนไปเล็กน้อย สไตล์การตัดภาพนี้เบี่ยงเบนจากกฎเกณฑ์มาตรฐานของการตัดต่อแบบต่อเนื่องเป็นอย่างมาก ซึ่งกำหนดให้มุมกล้องต้องเปลี่ยนไปอย่างน้อย 30 องศาจากคลิปหนึ่งไปยังคลิปถัดไป การตัดภาพแบบกระโดดจะแหกกฎนี้
การตัดภาพแบบกระโดดในบทภาพยนตร์คืออะไร
สมมติว่าคุณไม่ได้แค่ตัดต่อและกำกับภาพยนตร์ แต่คุณยังเขียนบทภาพยนตร์ด้วย การเปลี่ยนฉากที่คุณจินตนาการเป็นส่วนสำคัญของการเล่าเรื่อง การตัดภาพแบบกระโดดในบทภาพยนตร์ก็เหมือนกับทิศทางการตัดต่ออื่นๆ ที่คุณเขียนลงในสคริปต์
แม้ว่าจะมีการถกเถียงกันบ้างเกี่ยวกับวิธีที่ดีที่สุดในการเขียนการตัดภาพแบบกระโดดลงในบทภาพยนตร์ แต่จุดประสงค์คือการสื่อสารวิสัยทัศน์ของคุณอย่างชัดเจนให้กับทุกคนที่อ่านสคริปต์ มีสองวิธีง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ ดังนี้
- ใช้ทิศทางการตัดต่อ “JUMP CUT TO” ตามแนวทางปฏิบัติในการจัดรูปแบบบทภาพยนตร์ ซึ่งคุณจะเพิ่มเข้าไปในทิศทางการตัดภาพแบบกระโดดสำหรับทุกฉากที่คุณต้องการนำเสนอ
- แม้ว่าจะไม่เจาะจงเท่ากับคำว่า JUMP CUT TO แต่คุณยังสามารถใช้ SERIES OF SHOTS ได้เช่นกัน ซึ่งความหมายก็ตรงตัวเลย SERIES OF SHOTS หมายถึงการตัดต่อช็อตหลายๆ ช็อตที่มักจะตัดช็อตในฉากอย่างรวดเร็ว คุณสามารถใช้ SERIES OF SHOTS เป็นการตัดภาพแบบกระโดด หรือแม้แต่เป็นภาพตัดต่อได้ โดยขึ้นอยู่กับความชอบของคุณ ในบทภาพยนตร์ของคุณ ให้ระบุช็อตใหม่แต่ละช็อตในรูปแบบรายการ โดยใช้เครื่องหมายขีดคู่ (--)
- เพียงจำไว้ว่าสำหรับการตัดภาพแบบกระโดดที่แท้จริงนั้น มุมกล้องของคุณจะไม่สามารถเคลื่อนเกิน 30 องศาได้ ในกรณีที่มีการเคลื่อนไหว
ประวัติโดยย่อของการตัดภาพแบบกระโดด
ในช่วงต้นยุค 1900 ผู้สร้างภาพยนตร์ Georges Méliès ได้ค้นพบการตัดภาพแบบกระโดดและนำมาใช้ในการแสดงกลมายากล การตัดภาพที่ดูแนบเนียนช่วยให้ Méliès สามารถทำให้ตัวละครหายไปและปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งได้อย่างน่าอัศจรรย์
ข้ามไปยังปี 1959 กับภาพยนตร์เรื่อง Breathless ของ Jean-Luc Godard Godard ได้แหกกฎโดยใช้การตัดภาพแบบกระโดดที่ชัดเจนในซีเควนซ์เดียวกัน ในฉากที่กำลังขับรถ มุมกล้องนั้นยังคงเหมือนเดิม โดยจะเป็นมุมข้ามไหล่ของตัวละคร Patricia ที่นั่งในที่นั่งผู้โดยสาร แต่ฉากหลังจะเปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน
เอฟเฟกต์ความไม่ต่อเนื่องนี้ใช้เพื่อทำให้ผู้ชมรู้สึกสับสนและดึงดูดความสนใจไปที่ลักษะที่ประดิษฐ์ขึ้นมาของภาพยนตร์ บางคนกล่าวอ้างว่าโปรดิวเซอร์บังคับให้ Godard ตัดฉากในภาพยนตร์เยอะมากๆ เขาจึงได้ตัดมันตามอำเภอใจเพื่อแสดงความโกรธ และได้สร้างภาพยนตร์ที่มีอิทธิพลมากที่สุดเรื่องหนึ่งของ French New Wave ขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
ตั้งแต่ยุคของ Godard ผู้สร้างภาพยนตร์ก็ได้นำการตัดภาพแบบกระโดดมาใช้ในวิธีการเชิงสร้างสรรค์ที่หลากหลาย การตัดภาพเหล่านี้สามารถใช้ได้กับเอฟเฟกต์เร้าอารมณ์หรือตลกขบขัน เพื่อแสดงการไหลผ่านของเวลาขณะที่ตัวละครเปลี่ยนตำแหน่งในช็อตเดียว โดยสามารถใช้ตำแหน่งกล้องเดียวเพื่อแสดงตัวละครที่เคลื่อนไปในระยะทางไกลโดยไม่ให้ผู้ชมเห็นทุกก้าวที่เดิน การตัดภาพแบบกระโดดยังสามารถนำเสนอมุมมองของตัวละครที่สับสนหรืองุนงงได้โดยไม่ต้องพึ่งเอฟเฟกต์พิเศษ
เมื่อใดที่ควรใช้การตัดภาพแบบกระโดด
หากคุณต้องการดูตัวอย่างของการตัดภาพแบบกระโดดในการใช้งานจริงในปัจจุบัน ไม่ต้องมองหาที่ไหนไกล ไปที่ YouTube ได้เลย บนแพลตฟอร์มที่เฉพาะเจาะจงนั้น มักจะได้เห็นผู้สร้างวิดีโอแบบพูดหน้ากล้องใช้การตัดภาพแบบกระโดดเพื่อข้ามการทิ้งช่วงหรือข้อผิดพลาดที่ไม่เป็นธรรมชาติ ผู้ชมสมัยใหม่คุ้นเคยกับเทคนิคนี้แล้ว ดังนั้นคุณสามารถทำการตัดต่อในกระบวนการหลังการถ่ายทำได้ แทนที่จะพยายามถ่ายทำให้ได้เทคที่สมบูรณ์แบบ
“ผู้คนมักใช้คำประกอบการสนทนาเล็กน้อย หรือจะหยุดเพื่อคิดสักครู่ และไม่มีใครอยากดูสิ่งนั้น ดังนั้นคุณสามารถตัดส่วนเหล่านั้นออกและเร่งความเร็วของวิดีโอได้” ช่างภาพวิดีโอ Nick Cann กล่าว
แต่การตัดภาพแบบกระโดดเองก็ไม่ได้มีแค่ใน YouTube ในวิดีโอการตลาด การตัดภาพแบบกระโดดสามารถทำให้ข้อความมีชีวิตชีวาขึ้นได้ “การตัดภาพแบบกระโดดสามารถเร่งวิดีโอไปข้างหน้าและทำให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้นและมีส่วนร่วมมากขึ้นเล็กน้อยได้ ไม่เสียเวลาไปเปล่าๆ และไม่มีช่วงที่เงียบ” Cann กล่าว
การตัดภาพแบบกระโดดสามารถใช้เป็นเครื่องมือที่ดีในการแสดงการไหลผ่านของเวลาได้ โดยผู้คนสามารถเดินเข้าและออกกล้องอย่างรวดเร็วในขณะที่กล้องยังคงอยู่ที่เดิม การตัดภาพแบบกระโดดยังสามารถยกระดับอารมณ์ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะใช้สำหรับเรื่องตลกขบขันหรือสยองขวัญก็ตาม โดยการทำให้สิ่งต่างๆ ปรากฏขึ้นหรือหายไปจากหน้าจออย่างกะทันหัน
หากคุณต้องการทำให้ผู้ชมประหลาดใจ ลองเรียนรู้จาก Van Halen แล้วคุณเองก็ควรใช้เทคนิคการตัดภาพแบบกระโดดนี้เช่นกัน คุณเพียงต้องระวังอย่าใช้มากเกินไป ฟุตเทจที่ตัดไปมามากเกินไปจะทำให้รู้สึกติดขัดและรับชมได้ยาก การตัดภาพแบบกระโดดเป็นเครื่องมือทางภาพยนตร์ที่คุณควรใช้เฉพาะในตอนที่มีเหตุผลรองรับดีพอเท่านั้น เหมือนกับการตัดภาพด้วยการจับคู่และการตัดภาพแบบกะทันหัน
https://main--cc--adobecom.hlx.page/cc-shared/fragments/seo-articles/premiere-pro-create-card
วิธีใช้การตัดภาพแบบกระโดดใน Adobe Premiere Pro
วิธีหนึ่งในการตัดภาพคือการกดที่ปุ่ม Command + K บน Mac หรือ Control + K บน PC ซึ่งจะทำการแบ่งคลิปที่เฟรมที่ตัวชี้ตำแหน่งของคุณอยู่ โดยสามารถใช้วิธีนี้ได้ง่ายๆ เมื่อคุณพบส่วนที่ต้องการตัดขณะกรอผ่านฟุตเทจของคุณ หากต้องการตัดแทร็กเสียงพร้อมกับฟุตเทจวิดีโอ ให้กดที่ปุ่ม Shift + Command/Control + K
หากต้องการตัดด้วยเครื่องมือ Razor ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้
1. ปล่อยฟุตเทจวิดีโอลงในไทม์ไลน์ของคุณ
2. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเปิดการตั้งค่า Snap กับล็อกเสียงของคุณไว้ เพื่อให้คลิปของคุณสามารถล็อกเข้าที่ติดกันได้และเสียงยังคงซิงค์อยู่หลังจากที่คุณตัดคลิป
3. คลิกที่เครื่องมือ Razor (หรือกดปุ่ม C) แล้วคลิกที่จุดที่คุณต้องการเริ่มต้นตัดคลิป
4. คลิกที่เครื่องมืออีกครั้งและทำการตัดในตำแหน่งที่คุณต้องการให้การเคลื่อนไหวเริ่มใหม่อีกครั้ง
5. เลือกและลบส่วนต่างๆ ที่ไม่ต้องการได้อย่างง่ายดายโดยใช้ปุ่ม Alt/Option (ขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการของคุณ) + Delete เพื่อทำการ Ripple ปิดช่องว่างระหว่างคลิปเมื่อคุณทำการตัดคลิป
6. ซูมเข้าไปยังไทม์ไลน์ (แตะคีย์ +) และใช้งานเครื่องมือ Razor ซ้ำเพื่อปรับแต่งการตัดคลิปของคุณให้ละเอียดขึ้นไปอีกขั้น
วิธีหลีกเลี่ยงการตัดภาพแบบกระโดด
ผู้สร้างภาพยนตร์ได้พัฒนาหลายวิธีในการตัดต่อข้อผิดพลาดหรือการทิ้งช่วงที่ไม่เป็นธรรมชาติออกโดยที่ไม่ต้องพึ่งการตัดภาพแบบกระโดด คุณสามารถตัดไปที่ฉากอื่นและอาจตัดสลับระหว่างสองฉากได้ หรือจะตัดไปที่ B-roll ก็ได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังถ่ายทำเรื่องราวในนครนิวยอร์กที่มีตัวละครสองคนนั่งพูดคุยบนม้านั่งใน Central Park คุณสามารถตัดไปที่ฟุตเทจของฉากสวนสาธารณะในช่วงใดๆ ที่เงียบงัน จากนั้นคุณก็สามารถตัดกลับไปที่การสนทนาเมื่อการสนทนากลับมาดำเนินต่อ
เสริมสร้างทักษะการตัดต่อของคุณ
เรียนรู้วิธีตัดแต่งคลิปอย่างแม่นยำในไทม์ไลน์ Premiere Pro ของคุณ ไม่ว่าคุณจะใช้ซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอชนิดใด คุณก็สามารถค้นหาบทช่วยสอนทีละขั้นตอนที่ใช้งานได้จริงเพื่อให้ได้การตัดคลิปในขั้นสุดท้ายที่คุณต้องการได้
