สร้างภาพถ่ายช่วงไดนามิกสูง (HDR)

ถ่ายภาพ HDR ด้วยตัวคุณเอง

ขาตั้งกล้องเป็นสิ่งจำเป็นในการทำให้กล้องของคุณมั่นคงและทำให้มั่นใจได้ว่าภาพจะอยู่ในแนวเดียวกัน ถ่ายภาพสามประเภทต่อไปนี้ทีละภาพอย่างรวดเร็ว

• ภาพหลัก: ถ่ายภาพของฉากหนึ่งภาพโดยปรับให้กล้องใช้ค่าการรับแสงพื้นฐานหรือช่วงกลางระหว่างส่วนที่สว่างกับส่วนที่มืด
  
  
• ภาพที่มืดลง: ถ่ายภาพหนึ่งภาพโดยปรับความเร็วชัตเตอร์สำหรับบริเวณที่สว่างที่สุดของฉาก ในภาพนี้ คุณจะเก็บรายละเอียดทั้งหมดในพื้นที่สว่าง (เช่น ท้องฟ้า) และพื้นที่มืดของคุณจะปรากฏเป็นภาพเงา
  
  
• ภาพที่สว่างขึ้น: ถ่ายภาพหนึ่งภาพโดยปรับความเร็วชัตเตอร์สำหรับบริเวณที่มืดที่สุดของฉาก ในภาพนี้ คุณจะเก็บรายละเอียดทั้งหมดในบริเวณที่มืดกว่า (เช่น พื้นดิน) และพื้นที่สว่างของคุณจะดูสว่างไสว
  

ถ่ายภาพ HDR โดยอัตโนมัติด้วยการถ่ายภาพต่อเนื่อง

กล้องหลายตัวมีฟังก์ชันการถ่ายภาพต่อเนื่อง ซึ่งคุณสามารถตั้งค่าให้ถ่ายภาพสามภาพขึ้นไปโดยอัตโนมัติ “กล้องจะถ่ายภาพหลัก จากนั้นก็ภาพถัดไป (มืดลงเล็กน้อย) และภาพถัดไป (สว่างขึ้นเล็กน้อย)” Kosslow อธิบาย “โดยกล้องจะทำทั้งสามอย่างติดต่อกันเมื่อคุณคลิกปุ่มชัตเตอร์เพียงครั้งเดียว”

กล้องของคุณอาจช่วยให้คุณเลือกได้ว่าการถ่ายคร่อมจะแตกต่างกันอย่างไร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฟังก์ชันในการทำงาน ตัวอย่างเช่น การตั้งค่าการถ่ายคร่อม 1.0 หมายความว่าภาพที่มืดกว่าจะได้รับแสงที่ -1.0 จากภาพหลัก และภาพที่สว่างกว่าของคุณจะมีค่าการรับแสงที่ +1.0 จากภาพหลัก

สิ่งที่ต้องระวัง

เป้าหมายหลักของคุณในการถ่ายภาพ HDR คุณภาพสูงคือการทำทุกอย่างในการรับแสงทั้งสามครั้งของคุณให้มีความสอดคล้องกันมากที่สุด ด้วยวิธีนี้ ภาพถ่ายของคุณจะรวมกันเป็นรูปภาพเดียวง่ายขึ้นทั้งนี้การถ่ายภาพในเวลาใกล้เคียงกันมากที่สุดสามารถช่วยได้ และอย่าลืมคำนึงถึงประเด็นต่อไปนี้

• แสงหลอก: สิ่งใดก็ตามที่เคลื่อนไหวในเฟรมระหว่างการถ่ายภาพ เช่น เมฆหรือต้นไม้ในวันที่มีลมแรง โดยจะปรากฏเป็นภาพเบลอในรูปภาพที่รวมกันแล้ว คุณยังสามารถลดการเคลื่อนไหวของกล้องได้โดยใช้ขาตั้งกล้องและถ่ายภาพอย่างรวดเร็ว แต่แสงหลอกบางส่วนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และสามารถแก้ไขได้โดยใช้เครื่องมือตัดต่อ
  
  
• สมดุลแสงสีขาว: ตั้งค่าสมดุลแสงสีขาวของคุณด้วยตัวเอง เพื่อป้องกันไม่ให้สีเปลี่ยนไปในแต่ละภาพ คุณสามารถปรับแต่งสีด้วย Photoshop และ Lightroom ได้ แต่คุณควรพยายามจับภาพไฟล์ต้นฉบับที่สอดคล้องกันมากที่สุด
  
  
• ความเร็วชัตเตอร์: การปรับความเร็วชัตเตอร์เป็นสิ่งที่ต้องทำเพื่อควบคุมการรับแสงของภาพถ่ายที่จะนำมารวมเป็นภาพ HDR ปรับให้รูรับแสงของคุณ (F-stop) เท่ากันสำหรับการถ่ายภาพแต่ละภาพ
  
  
• ไฟล์ RAW: ถ่ายภาพของคุณในโหมด RAW เนื่องจากไฟล์เหล่านี้มีข้อมูลโทนสีและค่าพิกเซลที่แม่นยำกว่า หลังจากตัดต่อเสร็จแล้ว คุณสามารถแปลงรูปภาพเป็นไฟล์สกุล TIFF, JPG (หรือ JPEG) หรือรูปแบบอื่นที่ต้องการ

ใช้ Adobe Photoshop Lightroom เป็นซอฟท์แวร์ HDR ของคุณ

ทุกโปรเจกต์ HDR ต้องการเครื่องมือหลังการประมวลผลเพื่อรวมภาพหลายช็อตเป็นภาพถ่ายเดียว อย่างไรก็ตาม โปรแกรม HDR หรือปลั๊กอินนั้นไม่จำเป็น คุณสามารถค้นหาตัวเลือกซอฟต์แวร์ HDR ที่ดีที่สุดสำหรับโปรเจกต์ส่วนใหญ่ได้ใน Adobe Photoshop และ Lightroom

How to merge photos to create HDRs in Lightroom.

This quick tutorial will help you merge HDR photos in Lightroom:

1. Select your images: Select multiple exposure bracketed photos in Photo Grid, Square Grid, and Detail view.

2. Start your merge: Select Photo › Photo Merge › HDR.

3. Adjust HDR merge settings: In the HDR merge menu you can select Auto Align, tweak Auto Settings, and adjust deghosting.

• Auto align can help easily merge images shot with a handheld camera.
• Auto settings allow you to preview and edit the effects that evenly tone images in your HDR merge.
• Deghost settings allow you to fine-tune unnaturally semitransparent parts of the photo in your merge due to movement between photos. You can select None, Low, Medium, or High to remove the necessary amount of ghosting artifacts in your image.
   

4. Finalize it: Click Merge and a new file of the merged image with a DNG suffix will be saved.

How to merge HDR photos in Lightroom Classic.

Follow the steps below to create HDR images in Lightroom Classic:

1. Import your images: Then highlight your bracketed shots in the Library panel to select them.

2. Select Photo Merge: Select Photo › Photo Merge › HDR (Shortcut Ctrl+H).

3. Check the HDR Merge Preview: Leave Auto Align checked to help with alignment. Leave Auto Tone checked to create a very good starting point. After merging you’ll be able to further refine the image.

4. Choose deghosting options: If you have blur from things that moved between frames, choose Low, Medium, or High deghosting to correct ghosting artifacts as necessary. Lightroom will find the blurry subject and render its placement from the base image only, to remove blur.

5. Click Merge: Lightroom will merge the files and create and save a DNG file.

6. Fine-tune your image: Open your new HDR image in the Develop Module to manually adjust exposure, saturation, and more.

How to merge HDR photos in Photoshop.

You can also combine images into HDR with Photoshop.

1. Get started: In Photoshop, select Choose File › Automate › Merge To HDR Pro. If you want to import images from Adobe Bridge, select Tools › Photoshop › Merge To HDR Pro.

2. Adjust your merge: In the Merge To HDR Pro menu, select the images you want to merge. You can also select Attempt To Automatically Align Source Images if the images were taken without a tripod.

3. Choose your bit depth: Select 32-bit, 16-bit, or 8-bit. Note: 32-bit can store the entire dynamic range of the HDR image.

4. Adjust tones: Check a box for ghost removal, and pick an option for various methods of tone mapping. This automatically adjusts the tone of your final image in accordance with the output file size you chose.

5. Save your work: Then easily save your tone settings as presets to simplify batch processing.