มุ่งหน้าสู่ป่าเพื่อถ่ายภาพป่าไม้

ปัจจัยด้านแสง

การถ่ายภาพป่าไม้แตกต่างจากการถ่ายภาพภูมิทัศน์ประเภทอื่นๆ เนื่องจากคุณสามารถถ่ายภาพป่าไม้ได้ในหลากหลายสภาวะแสง ภาพป่าไม้ดูดีได้เมื่อบรรยากาศอึมครึม มืดครึ้ม หรือแม้แต่ตอนฝนตกเพราะปัจจัยเหล่านี้ส่งเสริมให้บรรยากาศและเพิ่มความรู้สึกใกล้ชิดเป็นส่วนตัว ซึ่งต่างจากบางสถานที่ที่ดูดีที่สุดก็ในตอนเช้าที่มีแดดจ้า

นอกจากนี้ วันที่มีแดดมากยังอาจทำให้ภาพในป่าดูยุ่งเหยิงไปด้วยลำแสงอาทิตย์สว่างจ้าและเงามืดๆ ซึ่งจะนำไปสู่การเกิด Contrast ที่สูงเกินไปในภาพถ่ายของคุณ คุณควรกลับไปยังสถานที่ดังกล่าวอีกครั้งในช่วงเวลาอื่นของวันเพื่อให้ถ่ายภาพออกมาได้ดีที่สุด เช่น ช่วงเช้าตรู่หรือช่วงดวงอาทิตย์กำลังจะตกดิน (เรียกว่าช่วงเวลา Golden Hour) เมื่อดวงอาทิตย์คล้อยต่ำจากท้องฟ้า ใช้แสงอ่อนๆ อันอบอุ่นจากช่วงเวลานี้ให้เกิดประโยชน์แล้วถ่ายภาพป่าไม้สวยๆ ออกมา

จัดตำแหน่งองค์ประกอบ

แม้ภาพถ่ายภูมิทัศน์จะดูสวยงามด้วยตัวภาพเองอยู่แล้ว แต่ลองหาองค์ประกอบสักอย่างในป่าเพื่อยกระดับให้ภาพของคุณโดดเด่นขึ้นมา ป่าไม้เป็นศูนย์รวมระบบนิเวศที่มีอะไรให้มองอย่างละลานตา ดังนั้นให้หาจุดที่น่าสนใจในป่าไม้ให้เจอ มองหาลำธารสวยๆ หรือตอไม้ที่ดูแปลกตาเพื่อใช้เป็นจุดโฟกัสในภาพถ่ายของคุณ เล็งกล้องขึ้นไปยังเหล่ากิ่งไม้บนเพดานป่าเพื่อจับภาพความรู้สึกที่เหนือจริง

ใช้เส้นนำสายตาจากทางเดินตามธรรมชาติหรือต้นไม้ที่ลมลงเป็นส่วนประกอบในภาพแล้วนำความสนใจของผู้รับชมภาพไปยังตัวแบบหลักของคุณตามความเหมาะสม คุณอาจใช้เงามืดที่เกิดจากแสงแดดเป็นเส้นนำสายตาได้ด้วยซ้ำ แสงสามารถช่วยให้ภาพดูมีความลึกได้ แต่อย่าลืมว่าแสงอาจทำให้ภาพขาวโพลนได้เช่นเดียวกัน หากคุณถ่ายภาพในสภาวะที่ไม่เหมาะนัก หมอกและควันก็สามารถช่วยให้ภาพถ่ายของคุณมีความรู้สึกสมจริงได้ดี

เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการถ่ายภาพป่าไม้

คุณจำเป็นต้องมีเครื่องมือบางชิ้นเพื่อถ่ายภาพป่าไม้ออกมาให้สวยงาม 

1. ตัวกล้อง

ฝึกใช้กล้องและตั้งค่ากล้องใช้เชี่ยวชาญก่อนเริ่มถ่ายภาพ ฝึกฝนในโหมดแมนนวล ลองตั้งค่า ISO และค่าอื่นๆ หลายๆ แบบเพื่อดูว่าคุณชอบการตั้งค่าแบบไหน ถ่ายภาพในโหมดรอว์เพื่อให้คุณแต่งภาพได้ง่ายยิ่งขึ้นในกระบวนการหลังถ่ายภาพ “สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือฝึกใช้กล้องที่คุณซื้อมาให้ชำนาญ คุณย่อมไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์ที่กำลังมีแสงดีๆ แต่คุณไม่รู้ว่าควรตั้งค่ากล้องของคุณยังไง” Davidson แนะนำ

2. เลนส์ Wide-Angle

เลนส์นี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของการถ่ายภาพภูมิทัศน์ ซึ่งเป็นเลนส์ที่มีความยาวโฟกัสสั้นกว่าเลนส์มาตรฐานอย่างมาก เลนส์ Wide-Angle ช่วยให้สามารถถ่ายภาพได้มากขึ้นโดยไม่ต้องขยับตัวออกห่างจากตัวแบบ “ผมมักจะพกเลนส์ Wide-Angle ติดตัวไปด้วยเสมอ ส่วนมากแล้วเลนส์ 16 มม. ถึง 55 มม. จะถ่ายภาพออกมาได้ดีในสถานการณ์แบบนั้น” Davidson เล่า

3. เลนส์ Telephoto

ความยาวของตัวเลนส์นี้นั้นสั้นกว่าความยาวโฟกัสของเลนส์ จึงเป็นการสร้างเอฟเฟกต์ที่คล้ายกับการซูมขยาย ใช้เลนส์ Telephoto ที่ยาวกว่า 50 มม. เพื่อถ่ายภาพป่าไม้ให้ออกมาสวยที่สุดแบบเบลอพื้นหลังน้อยๆ

โดยทั่วไปแล้วสำหรับเลนส์ที่มีความยาวระหว่าง 70 ถึง 200 มม. ค่าที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพป่าไม้จะอยู่ที่ f/2.8 เนื่องจากการใช้ค่าเหล่านี้ร่วมกันจะจำลองกระบวนการที่สมองของเราประมวลภาพความสัมพันธ์ระหว่างวัตถุและฉากหลังได้ดีที่สุด

4. เลนส์มาโคร

เลนส์ประเภทนี้ใช้เพื่อถ่ายภาพตัวแบบขนาดเล็กในการถ่ายภาพมาโคร ซึ่งจะทำให้วัตถุดูใหญ่กว่าที่เป็นจริง คุณสามารถใช้เลนส์มาโครโฟกัสในระดับ Infinity ไปจนถึงขยายแบบ 1:1 ซึ่งจะส่งผลให้ภาพที่จำลองขึ้นมาบนเซนเซอร์กล้องนั้นมีขนาดเดียวกันหรือใหญ่กว่าวัตถุจริง เลนส์นี้เหมาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการถ่ายภาพในระยะประชิดกับผืนป่าและสิ่งต่างๆ ที่พบเจออยู่บนนั้น

อย่าลืมว่าคุณจะถ่ายภาพได้โดยมีระยะชัดลึกที่ตื้นเมื่อคุณถ่ายในระยะใกล้เช่นนั้น และการคงกล้องไว้ให้นิ่งด้วยขาตั้งหรือตัวยึดก็ถือเป็นสิ่งจำเป็นในการถ่ายภาพวัตถุเล็กๆ ให้ชัดแจ๋ว

5. ขาตั้งกล้อง

คุณควรใช้ขาตั้งกล้องในสภาพแวดล้อมส่วนมาก แต่ในการถ่ายภาพป่าไม้ คุณยิ่งจำเป็นต้องถ่ายภาพให้ดีที่สุดเมื่อลมแรงๆ สามารถทำให้ใบไม้ทุกใบพัดปลิวได้ทุกเมื่อ ขาตั้งกล้องไม่เพียงจะช่วยกันไม่ให้กล้องสั่นเท่านั้น แต่ยังเอื้อให้คุณสามารถถ่ายภาพได้คมชัดกว่าเดิมแม้กระทั่งในสภาวะแสงน้อยเนื่องจากชั้นเรือนยอดของต้นไม้อาจก่อให้เกิดเงามืดได้

“คุณควรใช้ขาตั้งกล้องเพื่อถ่ายภาพในป่าเพราะในป่าจะไม่มีแสงเท่าไรนัก ถ้าคุณไม่ใช้ขาตั้งกล้อง ภาพที่คุณถ่ายได้จะมีแต่ภาพเบลอๆ” ช่างภาพ Joseph Filer อธิบาย

นอกจากนี้ คุณยังสามารถตั้งค่าถ่ายภาพ Long Exposure ด้วยความเร็วชัตเตอร์ที่ช้ากว่าเดิม ซึ่งจะไม่สามารถทำได้หากไม่ใช้ขาตั้งกล้อง

6. ฟิลเตอร์ Circular Polarizer

ปกติแล้วคุณควรถ่ายภาพป่าไม้ในวันที่ฟ้ามืดครึ้ม (เพราะแสงสว่างอาจกลืนสีสันสดใสในภาพของคุณจนขาวโพลนดังที่ได้กล่าวไปแล้ว) ฟิลเตอร์นี้จึงจะช่วยลดแสงจ้าจากหยดน้ำและความเปียกชื้นจากฝนหรือหยาดน้ำค้าง อีกทั้งยังเพิ่มความเข้มในภาพได้อย่างเป็นธรรมชาติ ฟิลเตอร์นี้จะช่วยให้สีสันต่างๆ คงอยู่ครบถ้วนแต่จะลดความจ้าส่วนเกินของแสงจากน้ำในภาพถ่ายป่าไม้ของคุณ

ถ่ายภาพป่าไม้ให้สมบูรณ์

เมื่อคุณถ่ายภาพเสร็จสิ้นและพร้อมแต่งภาพแล้ว Adobe Photoshop Lightroom ก็มีเครื่องมือต่างๆ ที่จำเป็นเพื่อให้คุณเติมแต่งและจัดระเบียบภาพถ่ายป่าไม้อันงดงามสะกดสายตาของคุณ ปรับภาพให้ตรงและครอบตัดภาพได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มเอฟเฟกต์และฟิลเตอร์ ปรับสีและค่าอื่นๆ อีกมากมายได้ในขั้นตอนเดียวกัน เมื่อคุณปรับการแก้ไขจนถูกใจแล้ว ค่าที่ตั้งไว้ล่วงหน้าของ Lightroom ก็ช่วยให้คุณนำการปรับค่าต่างๆ ที่คุณชื่นชอบไปใช้ได้ง่ายๆ อย่างรวดเร็ว การผสานการทำงานร่วมกับ Adobe Photoshop จะช่วยให้คุณสามารถส่งภาพสลับไปมาได้อย่างราบรื่น